พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า วานนี้ (4 เม.ย.) ได้เชิญ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) มาพูดคุยเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทย โดยใช้ Visa on Arrival (VOA)
โดยเบื้องต้น ได้เน้นย้ำเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มที่ใช้วีซ่า VOA 15 วัน และวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าทำงาน ที่กลุ่มคนเหล่านี้จะเดินทางเข้าไทย ซึ่งต้องติดตามและเข้มงวดกับการขอนุญาตอยู่ต่อ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่เกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือ Over Stay
ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่ออาชญากรรม ทางตำรวจก็มีการบูรณาการร่วมกัน ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้งใช้มาตรการเชิงรุกตรวจสอบบ้านเช่า ที่พัก อพาร์ทเม้นท์ และเกสต์เฮาส์ต่างๆ ตามข้อมูลที่แจ้งไว้เบื้องต้น
ส่วนการขอเปลี่ยนวีซ่าเพื่ออยู่ต่อในประเทศไทยให้นานขึ้นนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ในขั้นตอนเหล่านี้ ได้เน้นย้ำไปยังเจ้าหน้าที่ โดยให้นำบทเรียนที่ผ่านมามาปรับใช้ในการทำงาน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่ออาชญากรรมให้ดียิ่งขึ้น
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การที่มีนักท่องเที่ยวใช้วีซ่า VOA มองว่าเป็นประโยชน์มากกว่าเสีย เพราะประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว เพียงแต่ต้องมีมาตรการเชิงรุกที่ตรวจสอบในประเทศมากขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการกำชับมาอย่างต่อเนื่อง หากเข้ามามีส่วนเอื้อประโยชน์หรือเรียกรับผลประโยชน์กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการลงโทษไปแล้วจำนวนมากเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และสถานการณ์ปัจจุปันก็ดีขึ้น
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาไทยโดยใช้วีซ่า VOA ระหว่างที่อยู่ในประเทศ ทางการไทยก็จะประสานข้อมูลกับทางการจีน เพื่อขอทราบข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับประวัตินักท่องเที่ยวว่ามีประวัติก่อคดีอาชญากรรมมาก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง