กระทรวงสาธารณสุข เผย สถานการณ์โรควิด-19 แม้ระบาดเพิ่มขึ้น แต่ไม่รุนแรง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน ส่วนสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ไม่ได้มีอาการรุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม สั่งโรงพยาบาลจัดจุดฉีดวัคซีนโควิด พร้อมขอให้ สปสช. ออกแนวทางจูงใจฉีดควบคู่ "วัคซีนไข้หวัดใหญ่" และให้กรมควบคุมโรคเร่งสื่อสารทำความเข้าใจประชาชน ลดความตื่นตระหนก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดเพิ่มขึ้นนั้น เป็นไปตามการคาดการณ์ของกรมควบคุมโรค และไม่ได้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน ทั้งจากการติดเชื้อ และการได้รับวัคซีน
กรณีเชื้อสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ที่มีการเผยแพร่ข้อมูล และหลายคนวิตกนั้น เป็นธรรมชาติของเชื้อไวรัสที่จะมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่ยังคงเป็นลูกผสมของสายพันธุ์โอมิครอนเดิม และไม่ได้มีความรุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม ส่วนกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรงยังคงเป็นกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์) รวมทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับเข็มสุดท้ายนานกว่า 6 เดือน
นายอนุทิน กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังมีความจำเป็นในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะช่วยไม่ให้ป่วยหนักและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ดังนั้นจึงได้สั่งการให้สถานพยาบาลทั่วประเทศ และสถานพยาบาลของกรมในสังกัด จัดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 อำนวยความสะดวกประชาชน โดยวัคซีนที่มีในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นชนิด Bivalent
ทั้งนี้ อาจารย์แพทย์ที่เป็นคณะกรรมการวิชาการแจ้งว่า สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งได้มอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หาแนวทางสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมารับวัคซีนทั้งโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนมารับวัคซีนมากขึ้น ส่วนข้อกังวลกรณีจะมีการระบาดของโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่พร้อมกัน ยืนยันว่ามีความพร้อมดูแล ทั้งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ
"กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลอาการรุนแรงต่างๆ เช่น มีเลือดออกในโพรงจมูก และตาแดง ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ได้เกิดในทุกคน หรือกรณีคนงานต่างด้าวเสียชีวิตกะทันหัน ตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ผลเป็นบวก แล้วนำไปเชื่อมโยงว่าเป็นสายพันธุ์ XBB.1.16 เพราะก่อนหน้านี้มีอาการตาแดง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะโควิดไม่ได้ทำให้เสียชีวิตทันที ต้องมีอาการป่วยมาก่อน ดังนั้นได้มอบหมายกรมควบคุมโรค ช่วยสื่อสารข้อมูล สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น เพื่อลดความตื่นตระหนก" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าว