นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่มีคลื่นความร้อน (Heat Wave) และอุณหภูมิร้อนถึงร้อนจัด หลายจังหวัดมีค่าดัชนีความร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียส อาจทำให้เกิดโรคลมร้อน หรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน ควรอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
ส่วนผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง หากอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน มีโอกาสเกิดฮีทสโตรกได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องทำงานกลางแจ้ง ควรเลี่ยงการสวมชุดที่มีสีเข้ม เนื่องจากจะดูดซับความร้อนได้ดี ดื่มน้ำมากๆ และสลับเข้าพักในที่ร่มเป็นระยะ เช่น ทุก 30 นาที หรือทุกชั่วโมง
ทั้งนี้ อาการของโรคฮีทสโตรก ได้แก่ วิงเวียน อ่อนเพลีย ร่างกายมีความร้อนเพิ่มขึ้น เหงื่อไม่ค่อยออก ผิวร้อน แดง แห้ง หากเริ่มมีอาการ ให้รีบเข้าที่ร่มหรือห้องที่มีความเย็น และดื่มน้ำมากๆ สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าและสะโพกให้สูง คลายเสื้อผ้าให้หลวม หรือถอดเสื้อผ้าออกเท่าที่จำเป็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ซอกคอ รักแร้ และศีรษะ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน หากอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือโทรแจ้งสายด่วน 1669