น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/66 และในคราวประชุม 6/66
ทั้งนี้ อนุมัติให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขยายระยะเวลาโครงการศึกษาความปลอดภัย (Safety) ความสามารถในการกระตุ้นภูมิ (Immunogenicity) และประสิทธิภาพ (Vaccine Efficacy) ของแคนดิเดตซับยูนิตวัคซีน สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ที่ใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์ระยะที่ 2a จากที่สิ้นสุดในเดือนมิ.ย. 66 เป็นสิ้นสุด วันที่ 29 ธ.ค. 66 โดยโครงการมีกรอบวงเงิน 211 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 116.9 ล้านบาท หรือ 55.4%
โดยเหตุผลที่ต้องมีการขยายระยะเวลาโครงการ เนื่องด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะข้อมูลความปลอดภัยของการทดสอบวัคซีนระยะที่ 1 ของกลุ่มอาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อนำมาอ้างอิงเพิ่มเติมต่อการขออนุมัติดำเนินการทดสอบวัคซีนในระยะที่สูงขึ้น ขณะที่การวิจัยและพัฒนาวัคซีนมีความซับซ้อนทางเทคนิค จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เพื่อให้วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุด
พร้อมกันนี้ ครม. ได้อนุมัติให้ขยายระยะเวลาโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและทดสอบวัคซีนและเภสัชภัณฑ์ในลิงมาร์โมเส็ท (โครงการทดสอบวัคซีนในลิงมาร์โมเส็ท) จากเดิมที่สิ้นสุดเดือนเม.ย. 66 ไปสิ้นสุดวันที่ 29 ธ.ค. 66 โดยโครงการนี้มีกรอบวงเงินงบประมาณ 139.84 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 69.50 ล้านบาท หรือ 49.71%
โดยขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการก่อสร้าง ประกอบกับมีความล่าช้าในการจัดซื้อและรับมอบลิงมาร์โมเส็ทจากผู้ค้าภายในประเทศที่อยู่ระหว่างเบิกจ่ายเงินสำหรับลิงมาร์โมเส็ท จำนวน 67 ตัว ส่วนการจัดซื้อจากต่างประเทศ 75 ตัว ประสบปัญหาการจัดหาสายการบินเพื่อขนส่งเข้ามาในประเทศ