![ก้าวไกล รับ 21 ข้อเสนอจาก กทม. ตั้งทีม Bangkok transition ทำงานเพื่อคนกรุง](/img/files/20230606/iq0d56bc888930afcffdf71fa7799f3d29-0.jpg)
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส.กทม. แถลงข่าวร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังหารือร่วมกันประเด็นความร่วมมือในการพัฒนากรุงเทพฯ และการให้บริการประชาชน
โดยในการหารือครั้งนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้กล่าวถึง 21 ข้อเสนอ Empower Bangkok เช่น เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ปัญหาการจราจร ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งพรรคก้าวไกล ชื่นชมการทำงานของ กทม. ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐได้สะดวกยิ่งขึ้น ลดช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชน พร้อมระบุว่าหลายข้อเสนอของผู้บริหารกรุงเทพฯ ตรงกับ 300 นโยบายของพรรคก้าวไกล และตรงกับร่างกฎหมายจำนวน 45 ฉบับที่พรรคก้าวไกลเตรียมยื่นทันทีเมื่อเปิดสภาฯ
![ก้าวไกล รับ 21 ข้อเสนอจาก กทม. ตั้งทีม Bangkok transition ทำงานเพื่อคนกรุง](/img/files/20230606/iq0d56bc888930afcffdf71fa7799f3d29-1.jpg)
ทั้งนี้ การหารือระหว่างพรรคก้าวไกล กับ กทม. มี 3 ประเด็นหลักที่สำคัญ ดังนี้
- ประเด็นที่ 1 คือข้อเสนอ 21 ข้อของ กทม. ซึ่งต้องอาศัยการประสานงานกับรัฐสภาในการแก้ไขกฎหมาย พรรคก้าวไกลพร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งมีวาระเร่งด่วน คือ การบริหารน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน และการตรวจสอบเขื่อน เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน การแก้ปัญหารถติดในกทม. รวมทั้งปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกทม. ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากรถยนต์
- ประเด็นที่ 2 ในร่างกฏหมาย 45 ฉบับ ที่พรรคก้าวไกลจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กทม. คือ การแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าเขต
- ประเด็นที่ 3 คือ การตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านในการทำงานระหว่างพรรคก้าวไกล และ กทม. (Bangkok Transition Team) โดยพรรคก้าวไกล ได้นำเสนอนายพิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานฝั่งพรรคก้าวไกล และในส่วนของ กทม. ได้มอบหมายนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธาน โดยหลังจากนี้ คณะทำงานจะนำข้อเสนอทั้ง 21 ข้อไปประชุมหารือ เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกันให้มีความคืบหน้าต่อไป
![ก้าวไกล รับ 21 ข้อเสนอจาก กทม. ตั้งทีม Bangkok transition ทำงานเพื่อคนกรุง](/img/files/20230606/iq0d56bc888930afcffdf71fa7799f3d29.jpg)
นายพิธา ยืนยันว่า ตั้งใจจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหาของกรุงเทพฯ ให้มากที่สุด เช่น การแก้ปัญหาตั๋วร่วมที่ต้องมีราคาถูก การขนส่งโดยรถเมล์ไฟฟ้า เพื่อให้มีความสะดวก สะอาด และราคาถูกลง
สำหรับปัญหาเรื่องส่วยต่างๆ นั้น นายพิธา กล่าวว่า การประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเมื่อช่วงเช้า ได้มีการตั้งคณะทำงานต่อต้านคอรัปชั่น ต่อต้านส่วย โดยมีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นประธาน ซึ่งต้องมีการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ไม่ใช่แค่ส่วยในกทม.เพียงอย่างเดียว ซึ่งคงต้องมีการกิโยตินกฏหมายหรือใบอนุญาตที่ไม่มีความจำเป็น เพื่อแก้ปัญหา
สำหรับปัญหาท่าเรือคลองเตย ที่ กทม.ตั้งใจจะย้ายออกไปจากกรุงเทพฯ นั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป และเป็นส่วนหนึ่งที่คณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาจะนำไปพิจารณาต่อไป
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การหารือวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งการขับเคลื่อนงานต่างๆ ไปข้างหน้าความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ และการได้หารือตั้งแต่เริ่มทำงาน จะได้มีความเข้าใจร่วมกัน และเชื่อว่าจะเป็นก้าวแรกของการเดินทางไกล และทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
นายชัชชาติ กล่าวถึงเรื่องตั๋วร่วมว่า โจทย์สำคัญ คือ โครงสร้างราคาร่วม ที่จะทำอย่างไรให้ราคาค่าโดยสารถูกที่สุดสำหรับประชาชน ซึ่ง กทม.ไม่สามารถทำเองได้
สำหรับปัญหาท่าเรือคลองเตย ที่ทางกทม. ตั้งใจจะย้ายออกไปนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า จากวาระแห่งชาติเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น ทาง กทม.มีแนวทาง แต่ยังไม่ได้ดำเนินการครบถ้วน หากรัฐบาลใหม่เข้ามา หรือ ส.ส.กทม.ของพรรคก้าวไกล ช่วยผลักดันในส่วนนี้ ก็จะทำให้สามารถดำเนินการตามแผนได้จริง