นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการความคืบหน้าการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองว่า ปัจจุบัน รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการ รวม 22 สถานี (สถานีภาวนา-สถานีสำโรง) รวมทั้งขยายช่วงเวลาการทดลองให้บริการจาก 09.00 - 20.00 น. ขยายเป็น 06.00 - 20.00 น.
จากการขยายทั้งเส้นทาง และระยะเวลาดังกล่าว ทำให้มีประชาชนให้ความสนใจมาทดลองใช้บริการเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยตัวเลขจำนวนผู้ใช้บริการเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 (วันแรกของการขยายเส้นทางและเวลา) มีจำนวนสูงถึง 44,353 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับวันธรรมดาของการเปิดทดลองให้บริการในช่วงแรก สาเหตุเพราะช่วงเวลาที่ขยายเพิ่มขึ้น เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ประชาชนเดินทางไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ หรือไปธุระอื่นๆ ทำให้ประชาชน นักเรียน เลือกใช้ระบบรถไฟฟ้า เพื่อหนีปัญหาการจราจรติดขัด
นายพิเชษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ จะเปิดให้บริการตลอดสายครบ 23 สถานี จากสถานีลาดพร้าว-สถานีสำโรง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) และจะร่วมใช้บริการไปกับประชาชนจากสถานีลาดพร้าว-สถานีศรีเอี่ยม
โดยภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ ขร. จะตรวจความเรียบร้อยของสถานีของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทั้งส่วนทางขึ้น-ลง ตู้หรือห้องจำหน่ายบัตร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้การให้บริการมีความพร้อมมากที่สุด และในส่วนของค่าโดยสารการใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิต EMV Contactless (Europay, MasterCard and VISA) ในการแตะชำระค่าโดยสารได้ ซึ่งรองรับบัตรเครดิตของทุกธนาคาร
ส่วนบัตรเดบิต ปัจจุบันสามารถใช้บัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทย และธนาคารยูโอบี ส่วนธนาคารอื่นๆ อยู่ระหว่างการพัฒนาให้รองรับได้ โดยการชำระค่าโดยสารด้วยการใช้บัตร EMV จะเป็นเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ในการลดภาระค่าใช้จ่ายจากค่าแรกเข้า หากต้องเปลี่ยนระบบรถไฟฟ้าระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินประมาณ 15 บาท และโดยหากประชาชนเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งขาไปและกลับ จะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายค่าแรกเข้าประมาณ 30 บาทต่อวัน หรือราว 600 บาทต่อเดือน