นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ครั้งที่ 2/2566 โดยมีนายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกทม. ผู้แทนสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานประชาสัมพันธ์ และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยในที่ประชุม มีการรายงานผลการดำเนินการในเรื่องต่างๆ อาทิ
1. การจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย ได้แก่ การจัดระเบียบแผงค้า ตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร 3 ระยะ ผลการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจจุดหาบเร่-แผงลอยของผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร การจัดระเบียบพื้นที่และผู้ค้าบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม
2. การจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ
3. การจับปรับรถยนต์บนทางเท้า ได้แก่ ผลการจับปรับ การตั้งจุดกวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืน การใช้เทคโนโลยี (AI) เตรียมจับรถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า
4. การดำเนินการป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย
5. การพัฒนาเพิ่มศักยภาพบุคลากรสายงานเทศกิจ พ.ศ. 2566
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยนั้น ให้ดำเนินการต่อเนื่องจริงจัง เขตต้องทำความเข้าใจกับผู้ค้าในพื้นที่ยกเลิกจุดผ่อนผันในจุดต่างๆ เช่น โบ๊เบ๊ และแนวริมคลองผดุงกรุงเกษม เป็นการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และคืนทางเท้าให้กับประชาชนผู้ใช้ทาง ซึ่งจุดไหนที่ยกเลิกเป็นจุดผ่อนผันแล้ว ก็ไม่ให้มีการกลับมาทำการค้าใหม่
ขณะเดียวกัน รวมไปถึงช่วยเหลือหาพื้นที่ทำการค้าให้ผู้ค้าใหม่ ซึ่งหากเสียค่าเช่าพื้นที่ ต้องเสียในราคาไม่แพง และสามารถทำการค้าในระยะยาว หรือระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ระยะสั้น และจุดไหนที่จะนำผู้ค้าออกจากพื้นที่ ก็ให้นำออกทั้งหมดไม่ใช่ออกไปแค่บางส่วน
สำหรับป้ายโฆษณา ให้มีการถ่ายรูปส่งให้ฝ่ายรายได้ประเมินว่าต้องเสียภาษีป้ายหรือไม่ เนื่องจากบางป้ายอาจเข้าข่ายต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเสียเพียงค่าปรับจากการติดตั้งป้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนกรณีการจำหน่ายกัญชา ผู้จำหน่ายต้องขออนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทย กทม. ไม่สามารถดำเนินการได้ 100% จึงได้มีนำร่องให้สำนักงานเขต 4-5 เขต จัดทำโครงการ โดยเชิญกรมการแพทย์แผนไทย ร่วมตรวจพื้นที่เกี่ยวกับการจำหน่ายกัญชา พร้อมทั้งให้สำนักงานเขต ลงพื้นที่ตรวจจับปรับผู้ทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายอุปกรณ์ SEX TOY ในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ ได้ให้สำนักเทศกิจ สำรวจรายละเอียดการดำเนินโครงการกลับบ้านปลอดภัยกับเทศกิจ ว่าขณะนี้มีเขตใดบ้างที่ยังดำเนินการอยู่ และแต่ละเขตมีการใช้รถกี่คัน วิ่งเส้นทางไหน ประชาชนสนใจใช้บริการมากน้อยเท่าไร เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป