นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางของรัฐบาลใหม่ที่อาจนำกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติดว่า การจะปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด หรือนำกลับเข้าไปเป็นยาเสพติด จะต้องผ่านกระบวนการหลายฝ่าย หลายขั้นตอน ไม่ใช่จะทำได้เลย ซึ่งตอนที่ตนเข้ามาเป็น รมว.สาธารณสุข อาจมีความเข้าใจผิดจากสังคมว่าตนมีอำนาจสามารถทำได้ง่าย
แต่ในความจริงแล้ว ต้องมีกระบวนการมากมาย ต้องมีข้อมูลหลักฐานประกอบ ต้องผ่านการพิจารณาหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการทางวิชาการ หรือแม้แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
"การจะเอาเข้า เอาออกจากความเป็นยาเสพติด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้เลย ไม่ใช่อยากจะนำกลับ ก็นำกลับ ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ...ต้องอาศัยความพยายามอย่างมาก กว่าจะปลดล็อกกันออกมาได้ กล่าวคือ ต้องใช้เวลา 3 ปีนับจากที่เป็นรัฐมนตรี เราต้องหาข้อมูล หาหลักฐาน และนำสิ่งนั้นไปเสนอฝ่ายอื่นๆ เพราะเราไม่มีอำนาจ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย" นายอนุทิน กล่าว
พร้อมยืนยันว่า กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมา ภาครัฐทำให้เห็นแล้ว และภาคเอกชนก็ได้ทำให้เห็นแล้ว ส่วนใครที่ไปใช้ผิดประเภท ก็มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลจัดการ มีกฎหมายควบคุมอยู่
"เรื่องนี้ มันควรจะแก้ไขว่าอะไรที่มีประโยชน์ ก็ใช้ต่อไป ส่วนที่คิดว่ามีปัญหา ขอให้ไปผ่านกฎหมาย ให้ใช้แล้วเกิดประโยชน์สูงสุด ไปทำให้มีบทลงโทษที่ชัดเจน บังคับใช้จริงจัง" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงความกังวลจากภาคประชาชนที่นำกัญชามาใช้ประโยชน์ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีท่านใหม่ น่าจะได้รับข้อมูลจากผู้ที่ใช้กัญชาเพื่อสุขภาพ ถ้าได้รับข้อมูลใหม่และมองเห็นถึงประโยชน์ เช่น ข้อมูลจากคลินิกกัญชา จากโรงพยาบาลทั่วประเทศ แล้วก็ค่อยนำมาประมวล