กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกแนวทางปฎิบัติเกี่ยวกับแนวทางการแต่งกายและทรงผมของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครจัดทำข้อกำหนดให้นักเรียนแต่งกายด้วยชุดใดก็ได้ที่ไม่เป็นการบังคับ อย่างน้อย 1 วัน/สัปดาห์ และข้อกำหนดให้นักเรียนไว้ทรงผมได้อย่างอิสระบนพื้นฐานสุขอนามัยที่ดี สะอาด ส่งเสริมบุคลิกภาพ โดยห้ามไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิเสรรีภาพทางร่างกายและจิตใจของนักเรียน
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า เรื่องของชุดลูกเสือ เครื่องแบบ และทรงผม มีการหารือกันมานาน มีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องหลายส่วน รวมถึงมีผู้แทนนักเรียนด้วย ขณะนี้คุยไปแล้วหลายรอบและทุกฝ่ายได้ตกผลึกร่วมกัน หัวใจสำคัญคือเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้เด็กได้ไปโรงเรียนอย่างมั่นใจ ถูกสุขอนามัย และเป็นการลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง
สำหรับแนวทางที่ออกมา คือ มีอย่างน้อย 1 วันในสัปดาห์ที่นักเรียนจะใส่ชุดอะไรก็ได้ สิ่งสำคัญคือให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยประกาศนี้จะใช้บังคับทุกโรงเรียนในสังกัดของ กทม.
ในส่วนของทรงผม หัวใจหลักคือการไม่ริดรอนสิทธิเด็กเช่นเดียวกัน แต่ต้องอยู่ภายใต้ความเรียบร้อย เหมาะสม ทั้งนี้คณะกรรมการโรงเรียนได้พูดคุยร่วมกับผู้แทนผู้ปกครอง นักเรียน และทำให้แต่ละโรงเรียนอาจกำหนดไม่เหมือนกันได้ เพราะบางโรงเรียนก็มีการสอนศาสนาด้วย เราไม่ได้ทำเกินสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ แต่เนื่องจากแต่ละโรงเรียนตีความประกาศของกระทรวงฯ ไม่เหมือนกัน ดังนั้น กทม.จึงได้ออกประกาศเพื่อกำหนดแนวทางให้โรงเรียนในสังกัด กทม.
"เรื่องนี้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยอาจมีแรงต้าน วันนี้เราเอาเรื่องนี้มาคุยบนโต๊ะ ให้เด็กๆ ได้ร่วมกันตัดสินใจ เรื่องความเหมาะสมคือความเข้าใจที่ตรงกัน" นายศานนท์ กล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จะมีการประเมินผลดีผลเสียของการออกประกาศดังกล่าว เราไม่ต้องกลัวอะไร ให้กล้าทำในสิ่งต่างจากเดิม ทำอะไรใหม่ๆ ให้เด็กได้มีการคิด ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วม แต่ต้องมีกรอบ มีกติกา มีการประเมิน สุดท้ายถ้าไม่ดีก็ต้องปรับเปลี่ยน กทม.ยินดีรับคำติชมทุกอย่าง