น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการออกประกาศที่เกี่ยวข้องต่อไป
การพิจารณาของ ครม. ครั้งนี้สืบเนื่องจาก ครม.เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 66 ได้เห็นชอบให้คนต่างด้าวตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65 (คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 ก.พ. 66) ที่ประสงค์จะทำงานต่อในประเทศไทย จะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายใน 13 ก.พ. 66 และให้ไปดำเนินการเพื่อให้ได้เอกสารหลักฐานต่างๆ แล้วนำมายื่นกับกรมการจัดหางานภายใน 15 พ.ค. 66
ซึ่งภายหลังสิ้นสุดช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว ปรากฎว่ามีคนต่างด้าวประมาณ 5 แสนคน ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนด จึงจำเป็นต้องผ่อนผันให้กับคนต่างด้าวที่สถานะไม่ถูกกฎหมาย เพื่อให้นายจ้าง ผู้ประกอบการ สามารถบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวได้อย่างเหมาะสม และไม่ให้กระทบต่อความต่อเนื่องในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ในขณะนี้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับแนวทางการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ จะครอบคลุมแรงงานเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่
1) คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางที่มีอายุหรือหมดอายุ และมีรอยตราประทับซึ่งการอนุญาตทำงาน หรืออนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยกฎหมาย เช่น กรณีคนต่างด้าวออกจากนายจ้างรายเดิมแล้ว ไม่สามารถหานายจ้างรายใหม่ได้ภายในเวลากำหนด หรือกรณีไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากดำเนินการตามมติ ครม. ที่ผ่านมาไม่ครอบคลุมทุกขั้นตอน
2) คนต่างด้าว 4 สัญชาติฯ ที่ระยะเวลาการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร (Over Stay) และ 3) คนต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายหรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง และทำงานกับนายจ้างก่อนที่ ครม. มีมติให้ความเห็นชอบ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า วิธีดำเนินการบริหารจัดการ ประกอบด้วย
1) ผ่อนผันให้คนต่างด้าวเป้าหมายทั้ง 3 กลุ่ม อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและทำงานได้ถึง 31 ก.ค. 66
2) ให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อ พร้อมรูปถ่าย เพื่อแจ้งความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Name list) ต่อกรมการจัดหางานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ณ สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว สำนักงานจัดหางานจังหวังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ เป็นเวลา 15 วัน ตามที่กรมการจัดหางานกำหนด
3) เมื่อ Name list ได้รับการอนุมัติแล้ว คนต่างด้าวจะใช้ Name List ดังกล่าวเป็นเอกสารหลักฐาน แสดงว่าคนต่างด้าวได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานได้ถึง 31 ก.ค. 66
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ติดตาม ซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมาย ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ มีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรตามสิทธิของคนต่างด้าว ซึ่งเป็นบิดา-มารดา โดยดำเนินการตามแนวทางที่กระทรวงแรงงานกำหนดต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ประเมินผลที่คาดว่าจะได้รับจากการออกแนวทางบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวฯ ครั้งนี้ว่า จะเป็นการผ่อนผันให้คนต่างด้าวเป้าหมาย สามารถอยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวเพื่อทำงานต่อไปได้ เพื่อรอระยะเวลาดำเนินการเอกสารให้ถูกต้อง และสามารถทำงานในประเทศไทยได้ตามกำหนดอย่างถูกต้องต่อไป และคนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว เป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย การผ่อนผันดังกล่าว จะช่วยแก้ไขการขาดแคลนแรงงานของผู้ประกอบการ และยังคงคำนึงถึงความสมดุลของเศรษฐกิจประเทศและความมั่นคง
นอกจากนี้ การบริหารจัดการที่เหมาะสม จะเป็นการช่วยคุ้มครองให้คนต่างด้าวได้รับการจ้างงานโดยถูกกฎหมาย มีสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ คุ้มครองสิทธิที่พึงได้ และจะมีให้ภาครัฐมีข้อมูลการทำงานของคนต่างด้าวที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อให้สำหรับการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวในระยะต่อไป