นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงเหตุการณ์โครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ในพื้นที่เขตลาดกระบังถล่มในช่วงเย็นวานนี้ (11 ก.ค.) ว่า สาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้ คาดว่าเกิดเหตุในขั้นตอนการดึงลวดจุดที่เป็น Haft Joint ที่ยื่นออกมา อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สำนักอนามัย สำนักงานเขตลาดกระบัง มูลนิธิกู้ภัย สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าเคลียร์พื้นที่แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดการจราจรได้ใน 3 วัน
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น จะมีบริษัทประกันภัยเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงมีการเยียวยาผู้เสียหายและผู้ได้รับผลกระทบ โดยหลังจากนี้จะมีขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป
ส่วนกรณีที่มีประเด็นว่า ได้มีการเปลี่ยนแบบการก่อสร้างนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องกระบวนการก่อสร้างปกติ เนื่องจากผู้รับเหมาทำงานล่าช้า เลยขอเปลี่ยนวิธีการก่อสร้างตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนี้ เน้นย้ำถึงประชาชนว่าการสื่อสารข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ขอให้ดูความถูกต้อง เพราะการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าในระบบออนไลน์จะมีความผิดตามกฏหมาย
"ขออย่าสร้างความสับสนให้สังคม ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญออกมาพูด เป็นวิธีการก่อสร้างทั่วไป ทำให้การก่อสร้างคุณภาพดีขึ้น เร็วขึ้น ที่อ้างว่าบริษัทเปลี่ยนแบบ ไม่มีประเด็นอะไร ไม่มีปัญหาอะไร มองว่าเป็นขั้นตอนการก่อสร้างที่มีความผิดพลาดมากกว่า ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยทำมา หรือเรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทำทั่วไป" นายชัชชาติ กล่าว
ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เมื่อเดือนก.ย. 65 บริษัทมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้าง เนื่องจากต้องการเร่งรัดการก่อสร้าง เพราะคาดว่าจะไม่ทันการณ์ และโดนค่าปรับสูง
นายธวัชชัย ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กล่าวว่า สาเหตุที่มีการก่อสร้างล่าช้า ส่วนหนึ่งมาจากติดช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนงานไม่สามารถก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้สั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะมีการตรวจสอบโครงสร้าง และเสนอมาตรการคุมเข้ม สำหรับงานการก่อสร้าง กทม. จะมีทีมงานที่เป็นวิศวกรประกบคุมงานก่อสร้างทุกครั้ง
น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 12 ราย ซึ่งเป็นคนงานทั้งหมด หลังจากนี้จะมีการดูแลผู้บาดเจ็บต่อไป ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งได้ที่โทร 199 กทม. พร้อมเยียวยาทุกรูปแบบ