น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความยินดีที่ไทยได้รับการจัดให้อยู่อันดับที่ 6 ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าอยู่และเหมาะให้ชาวต่างชาติมาทำงานมากที่สุดในโลก จาก 53 อันดับ ทั่วโลก จากรายงาน Expat Insider 2023 (https://cms.in-cdn.net/cdn/file/cms-media/public/2023-07/Expat-Insider-2023-Survey.pdf) ซึ่งจัดทำโดยเว็ปไซต์ InterNations ซึ่งมีเครือข่าย Expat เป็นสมาชิกกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก
โดยเป็นการสำรวจผ่านความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็น Expat จำนวน 12,065 คนใน 172 ประเทศและดินแดน ซึ่งไทยมีอันดับประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าอยู่และเหมาะให้ชาวต่างชาติมาทำงานมากที่สุดในโลกที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากในปี 2022 อยู่อันดับที่ 8 และในปี 2021 อยู่อันดับที่ 12
สำหรับเกณฑ์การจัดลำดับของ Expat Insider 2023 จะพิจารณาจาก 5 ดัชนีหลักครอบคลุมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย รัฐบาล ภาษา และชีวิตดิจิทัล ซึ่งไทยอยู่ในลำดับที่ค่อนข้างสูง คือ ดัชนีคุณภาพชีวิต (ลำดับที่ 37) ดัชนีความสะดวกสบายในการเข้าพัก (ลำดับที่ 11) ดัชนีการทำงานในต่างประเทศ (ลำดับที่ 39) ดัชนีการเงินส่วนบุคคล (ลำดับที่ 4) และ ดัชนีสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวต่างชาติ (ลำดับที่ 18)
ในรายงานยังระบุว่า ประเทศไทยมีระดับความสุขต่อการไปอยู่ไปทำงานของ Expat 86% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 72 % โดยหมวดของเกณฑ์วัดที่ไทยได้คะแนนดี ได้แก่ คุณภาพชีวิต และปัจจัยที่เอื้อต่อการย้ายไปทำงาน เช่น ค่าตอบแทน อีกทั้งยังเป็นสวรรค์ของ Expat ที่ชอบท่องเที่ยวพักผ่อน ขณะที่ค่าครองชีพก็มีความเหมาะสม นอกจากนี้ยังระบุว่า ชาวต่างชาติ 86% เห็นว่ารายได้ครัวเรือนเพียงพอต่อการอาศัยอยู่ในประเทศไทย ราคาบ้านถูก และชาวต่างชาติ 9 ใน 10 พึงพอใจกับอาหารไทยที่มีความหลากหลาย วัฒนธรรมไทยและชีวิตกลางคืนก็เป็นปัจจัยที่ชาวต่างชาติชื่นชอบมากถึง 78% อีกด้วย
"นายกรัฐมนตรีขอบคุณผลการจัดลำดับดังกล่าว เชื่อมั่นว่าเป็นผลสะท้อนการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาว่าแก้ไขปัญหาตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการของชาวต่างชาติในไทย การจัดอันดับด้วยการสำรวจความคิดเห็นจึงเชื่อมั่นได้ว่าเป็นผลที่สะท้อนความคิดของลูกค้า หรือคือชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยอย่างแท้จริง ถือเป็นอีกเสียงสะท้อนว่าชาวต่างชาติ เห็นศักยภาพ โอกาส และมีความชื่นชอบประเทศไทย การเข้ามาของกลุ่ม Expat นั้นมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสร้างรายได้ การลงทุน และเพิ่มโอกาสการจ้างงานภายในประเทศ" น.ส.รัชดา กล่าว