นายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีและโฆษกกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากรายงานข่าวชุดปฏิบัติการสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองสารวัตรและกักกัน ได้ตรวจยึดไส้กรอกหมูในกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารจากต่างประเทศนั้น
การปฏิบัติการดังกล่าว เป็นไปตามมาตรการของกรมปศุสัตว์ ที่ได้ยกระดับการป้องกันโรคระบาดสัตว์เข้าประเทศ ตั้งแต่ปี 2561 หลังพบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) ในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นโรคระบาดที่เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่ติดต่อหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์ชนิดอื่น
อย่างไรก็ดี โรค ASF ได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทยอย่างมาก กรมปศุสัตว์จึงได้เพิ่มมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกร โดยได้ติดตามสถานการณ์โรคระบาดในต่างประเทศ ชะลอการนำเข้าสุกรมีชีวิตและผลิตภัณฑ์สุกรจากประเทศที่มีการระบาดของโรค รวมถึงการตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรในช่องทางติดต่อระหว่างประเทศ เช่น ท่าอากาศยาน จุดผ่านแดนตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น
นายสัตวแพทย์โสภัชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการตรวจพบการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุกร โดยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมีการตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส ASF จากผลิตภัณฑ์สุกรที่นักท่องเที่ยวนำติดตัวเข้าประเทศไทย
ทั้งนี้ การนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 68 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"กรมปศุสัตว์ มีการมาตรการควบคุมป้องกันโรคระบาดสัตว์ เพื่อป้องกันโรคระบาดสัตว์จากการนำเข้าสัตว์และซากสัตว์จากต่างประเทศ และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ภายในประเทศ ขอให้ประชาชนมั่นใจ ในการบริโภคสินค้าปศุสัตว์ ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์" รองอธิบดีและโฆษกกรมปศุสัตว์กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมปศุสัตว์ โทรศัพท์ 063-225-6888 หรือแจ้งเบาะแสผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ด้านเภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชี้แจงว่า ไส้กรอกหมูที่ลักลอบนำเข้ามานั้น เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้ขอเลขสารบบอาหาร และไม่แสดงฉลากตามกฎหมาย โดยผู้นำเข้า หากนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง จะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ทั้งนี้ อย.ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์แล้ว จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
"ขอให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่มาจากแหล่งน่าเชื่อถือ มีฉลากแจ้งข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เลขสารบบอาหาร ผู้ผลิต ส่วนประกอบ วิธีรับประทาน และติดตามข้อมูลข่าวสารจาก อย. โดยเฉพาะการแจ้งผลการตรวจวิเคราะห์อาหาร" รองเลขาธิการ อย. ระบุ
ทั้งนี้ หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีการแจ้งเตือนว่า มีการปนเปื้อนหรือไม่ปลอดภัยในการบริโภค และไม่ควรรับประทานอาหารดิบหรือผ่านความร้อนไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ดี หากมีข้อสงสัย หรือพบการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายให้แจ้ง สายด่วน อย. 1556, ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) โทร 02-5907354-5, กองอาหาร โทร 02-5907252 หรือสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ