นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.66 เพื่อมารับโทษตามกฎหมาย ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ยังไม่ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์มีความพร้อมที่จะรับตัวนายทักษิณ หากได้รับคำสั่งหรือหมายศาลคดีใดแจ้งมายังกรมราชทัณฑ์ หากเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมตัวนายทักษิณ มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมีมาตรการการรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานควบคุมผู้ต้องขัง (SOPs) และกรมราชทัณฑ์ยังคงมีแนวทางการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายโดยเท่าเทียมกัน อยู่บนพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน
โดยผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายจะถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องกักโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน และต้องได้รับการตรวจสุขภาพจากสถานพยาบาลของเรือนจำฯ สำหรับกรณีนายทักษิณถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ และจะแยกควบคุมในห้องกักโรคเฉพาะผู้สูงอายุ หากมีโรคประจำตัวที่จะต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง ทางกรมราชทัณฑ์จะมีแพทย์ประจำเรือนจำฯ ที่จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการจำแนกผู้ต้องขัง โดยจะนำตัวไปยังห้องกักโรคของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อไป
โฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์เตรียมความพร้อมเพื่อรับตัวนายทักษิณ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป มิได้มีสิทธิพิเศษเหนือกว่าผู้ต้องขังรายอื่นๆ ถึงแม้จะเคยเป็นบุคคลสำคัญทางสังคม มิได้มีห้องพิเศษสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแต่อย่างใด ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์ได้เตรียมแผนรักษาความปลอดภัย หากมีมวลชนจำนวนมาก เดินทางมาให้กำลังใจ หรือเข้ามาในเขตพื้นที่บริเวณหน้าเรือนจำฯ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและมิให้เกิดเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป