น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ (1 ส.ค.) ประชาชนที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว จะเริ่มทยอยเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวเข้าทำงาน ขณะที่บางส่วนยังอยู่ในช่วงการเดินสายทำบุญ เนื่องจากวันสำคัญทางศาสนาต่อเนื่องกัน 2 วัน คือวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา จึงคาดว่าการจราจรบนเส้นทางสายหลักทั่วประเทศจะเป็นไปอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลมีความห่วงใยและขอให้ประชาชนที่อยู่ระหว่างการเดินทาง เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานยนต์ทุกประเภท เพราะนอกจากการจราจรที่คับคั่งแล้ว ระยะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนที่อาจส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ สิ่งแวดล้อมบนท้องถนน ที่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สภาพอากาศว่า ระยะนี้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก
ทั้งนี้ สภาพอากาศในวันที่ 1 ส.ค. 66 ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนอง 80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่, ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี, ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ได้รายงานถึงสถานการณ์อุบัติเหตุทั่วประเทศในช่วง 4 วันแรกของวันหยุดยาว ระหว่าง 28-31 ก.ค. มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 94 ราย บาดเจ็บสะสม 6,732 ราย แม้ในภาพรวมสถานการณ์ไม่รุนแรงเหมือนเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ตำรวจก็มีการติดตามเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข มีการเตรียมพร้อมระบบการส่งต่อผู้ป่วย หากพื้นที่ใดมีปัญหา เช่น ขาดเวชภัณฑ์ ขาดเลือด โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้บริหารจัดการทรัพยากรช่วยเหลือกันภายในเขตสุขภาพ
"ในช่วงที่ประชาชนมีการเดินทางจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการบูรณาการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกและเฝ้าระวังอุบัติเหตุ แต่สำคัญที่สุด ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะควรเตรียมพร้อมร่างกาย และตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อม ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ ปฏิบัติตามกฎจราจร และเพิ่มความระมัดระวัง เมื่อต้องขับรถในสภาพอากาศไม่ปกติเช่นมีพายุหรือฝนตกหนัก" น.ส.ไตรศุลี กล่าว