น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ไทยรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับอนุภูมิภาค ว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและความมั่นคงข้ามชาติ ครั้งที่ 4 และหลักการขั้นสูงสำหรับการปกป้องเด็ก ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงในอนุภูมิภาค ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ
ทั้งนี้ ให้รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 ดำเนินการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ และหลักการขั้นสูงฯ ต่อไป
สำหรับการประชุมระดับอนุภูมิภาค ว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและความมั่นคงข้ามชาติ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้หารือแนวทางการรับมือกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย และเดินทางกลับมาตุภูมิในภูมิภาคของกลุ่มนักรบก่อการร้ายต่างชาติ (Foreign Terrorist Fighters: FTFs) รวมทั้งภัยคุกคามข้ามชาติอื่นๆ
โดยการประชุมที่ผ่านมา มีประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 8 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย บรูไน มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย
ในส่วนของร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับอนุภูมิภาค ว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและความมั่นคงข้ามชาติ ครั้งที่ 4 มีประเด็นสำคัญต่างๆ ที่ต้องดำเนินการร่วมกัน อาทิ
- เสริมสร้างขีดความสามารถและประสิทธิภาพของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานด้านความมั่นคง
- เสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคและแบ่งปันแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะการป้องกันการบ่มเพาะแนวคิดหัวรุนแรงในกลุ่มเยาวชนผ่านทางช่องทางออนไลน์
- พัฒนาระเบียบปฏิบัติหรือแผนเผชิญเหตุร่วมกันทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาคสำหรับสถานการณ์การก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง
- สร้างความต้านทานต่อภัยคุกคามของระบบคอมพิวเตอร์ในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และห่วงโซ่อุปทาน
- ประสานความร่วมมือ และแบ่งปันความรู้ในการต่อสู้กับปัญหาการลักลอบขนคน การค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานในภูมิภาคร่วมกัน
สำหรับหลักการขั้นสูงสำหรับการปกป้องเด็ก ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงในอนุภูมิภาค เป็นเอกสารเกี่ยวกับแนวปฏิบัติต่อเด็ก ในลักษณะเหยื่อของภัยการก่อการร้ายที่ไม่ใช่เป็นผู้กระทำผิด มีแนวปฏิบัติดังนี้
1. เด็กที่เกี่ยวข้องกับหรือถูกชักจูงโดยกลุ่มก่อการร้าย หรือกลุ่มแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง รวมถึงลูกของนักรบก่อการร้ายต่างชาติ ควรได้รับการพิจารณาในลักษณะของเหยื่อของอาชญากรรม และการทารุณกรรม และควรปฏิบัติโดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ มาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน และสิทธิเด็ก
2. มุ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกันที่ช่วยเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลและทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ เพื่อปกป้องเด็กจากการเข้าถึงแนวคิดก่อการร้าย และแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง เนื่องจากปัจจุบันมีการแพร่กระจายของเนื้อหาสนับสนุนแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงทางออนไลน์
3. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการรับกลับ การกลับคืนสู่สังคม และการบำบัดเด็กที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย หรือกลุ่มแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง