น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ประจำปี พ.ศ. 2566 (APEC 2023 Women and the Economy Statement) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ซึ่งเป็นร่างแถลงการณ์ที่จะมีการรับรองในการประชุมระดับสูง สำหรับผู้กำหนดนโยบายด้านสตรีและเศรษฐกิจ (High Level Policy Dialogue on Women and the Economy: HLPDWE) วันที่ 20 ส.ค.66 ณ เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
ร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ประจำปี พ.ศ.2566 ฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสตรีในด้านต่างๆ ดังนี้
1.จัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริบาล อาทิ จัดทำนโยบายการคุ้มครองทางสังคมสำหรับผู้บริบาล (Care Worker) ที่ยุติธรรม เท่าเทียม และเหมาะสม ทั่วทั้งภูมิภาค
2.ลดช่องว่างระหว่างเพศทางด้านดิจิทัล โดยเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยี การพัฒนาทักษะ การเข้าถึงตลาดและแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยให้สตรีและเด็กหญิงทุกคน สามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือ ระบบอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย รวมทั้งเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านดิจิทัล เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลได้อย่างเต็มที่
3.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาทิ 1) ผลักดันการมีส่วนร่วมของสตรีในกระบวนการตัดสินใจ และการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2) การพัฒนานวัตกรรมในด้านพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่เป็นธรรม 3) การเข้าร่วมและเป็นผู้นำในระบบเศรษฐกิจสีน้ำเงินและระบบเศรษฐกิจสีเขียว เป็นต้น
ทั้งนี้ ระบบเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) คือ แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน ส่วนระบบเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) คือ แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นดิน ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
4.ส่งเสริมความเท่าเทียมและความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจที่มีสตรีเป็นเจ้าของ เป็นผู้นำ และเป็นผู้จัดการ ให้มีความยืดหยุ่นและสามารถแข่งขันได้มากขึ้น รวมทั้งขจัดกฎหมายและนโยบายที่มีการเลือกปฏิบัติ และขัดขวางโอกาสในการสมัครงาน และความเป็นผู้ประกอบการของสตรี