พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) โดยได้รับทราบสถานการณ์จากอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่กำลังประสบปัญหาเป็นอย่างมาก เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกน้อยในหลายพื้นที่ และแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำจำกัด โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค
ถึงแม้ปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตามนโยบาย 12 มาตรการ รับมือฤดูฝนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ และยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงได้ และขณะเดียวกันปรากฏการณ์เอ็นโซ่ (ENSO) อยู่ในสภาวะเอลนีโญ และจะมีแนวโน้มที่มีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.66 ทำให้ประเทศไทยช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.66 มีปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ
ที่ประชุมยังได้พิจารณาเห็นชอบร่างมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 เพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ ซึ่งประกอบด้วย 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1) การจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เกี่ยวกับการวางแผนการระบายน้ำ 2) ให้ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง (ตลอดช่วงฤดูฝน) และให้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกร และ 3) ให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (ตลอดช่วงฤดูฝน) ได้แก่ การใช้น้ำภาคการเกษตร เช่น การปลูกพืชใช้น้ำน้อย การปรับปรุงระบบการให้น้ำพืช และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น รวมถึงการประหยัดน้ำของทุกภาคส่วน ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมใช้ระบบ 3R เพื่อลดการใช้น้ำจากแหล่งต่างๆ และการลดการสูญเสียน้ำในระบบประปา และระบบชลประทานด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช.และหน่วยงานต่างๆ เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้ประชาชน รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทั่วถึง ทันเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมและจัดลำดับความสำคัญในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคอย่างเพียงพอของประชาชนเป็นอันดับแรก น้ำที่เหลือจึงใช้เพื่อการอื่นๆ รวมถึงพื้นที่ EEC ที่มีความสำคัญด้วยต่อไป พร้อมรณรงค์ขอให้ประชาชน เกษตรกร และทุกภาคส่วน ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า