กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก หลังพบร่องมรสุมกำลังปานกลาง จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังปานกลางพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
โดย กอนช. ประเมินสถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่า ในช่วงวันที่ 20-25 ส.ค.66 มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน ดังนี้
1.ภาคเหนือ
- จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย ขุนตาล และแม่สรวย)
- จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอฝาง และแม่อาย)
- จังหวัดน่าน (อำเภอนาหมื่น และเวียงสา)
- จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเขาค้อ)
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย เฝ้าไร่ โพนพิสัย และรัตนวาปี)
- จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอบุ่งคล้า)
- จังหวัดนครพนม (อำเภอ ท่าอุเทน และศรีสงคราม)
- จังหวัดสกลนคร (อำเภอพรรณานิคม สว่างแดนดิน และอากาศอำนวย)
- จังหวัดอุดรธานี (อำเภอบ้านดุง)
- จังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และหัวตะพาน)
- จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอเมืองสุรินทร์)
- จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอเมืองศรีสะเกษ)
- จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขื่องใน)
3.ภาคตะวันออก
- จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว และขลุง)
- จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง บ่อไร่ คลองใหญ่ และเกาะช้าง)
4.ภาคใต้
- จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง และกะเปอร์)
- จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ทับปุด และท้ายเหมือง)
- จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
- จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล และละงู)
- จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน และวังวิเศษ)
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอพนม และบ้านตาขุน)
ในการนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มี ฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน
2. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที