พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้านโยบายทางเท้าปลอดภัยด้วย AI ตรวจจับจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า การกวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืน ในจุดหลักๆ ซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งไปแล้ว 12 กล้อง ในพื้นที่ 10 จุด จากเดิมนำร่อง 5 จุด โดยผลการจับกุมของกล้อง AI พื้นที่ 10 จุด จำนวน 12 กล้อง ระหว่าง 1 มิ.ย.-15 ส.ค. 66 พบว่า
- จุดที่ 1 ปากซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ 2 กล้อง) มิ.ย. ฝ่าฝืน 1,136 ราย ก.ค. 274 ราย ส.ค. 81 ราย
- จุดที่ 2 ปากซอยเพชรเกษม 28 มิ.ย. 1,005 ราย ก.ค. 649 ราย ส.ค. 61 ราย
- จุดที่ 3 หน้าโรงเรียนนิเวศน์วารินทร์ มิ.ย. 847 ราย ก.ค. 861 ราย ส.ค. 46 ราย
- จุดที่ 4 ปากซอยเพชรบุรี 9 มิ.ย. 84 ราย ก.ค. 70 ราย ส.ค. 20 ราย
- จุดที่ 5 ปั๊มน้ำมัน ปตท. เทพารักษ์ มิ.ย. 160 ราย ก.ค. 128 ราย ส.ค. 22 ราย
- จุดที่ 6 ปากซอยลาดพร้าว 25 ก.ค. 147 ราย ส.ค. 77 ราย
- จุดที่ 7 ถนนประเสริฐมนูกิจ บึงพระราม 9 (2 กล้อง) ก.ค. 9,033 ราย ส.ค. 224 ราย
- จุดที่ 8 พัฒนาการ 44 ก.ค. 2,105 ราย ส.ค. 725 ราย
- จุดที่ 9 สุขุมวิท 26 ก.ค. 224 ราย ส.ค. 90 ราย
- จุดที่ 10 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ส.ค. 765 ราย
ทั้งนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตห้วยขวาง ยอดจับกุมตั้งแต่ 1 ก.ย. 65-31 ก.ค. 66 พบผู้ทำผิด 703 ราย ปรับจำนวนเงิน 1,423,200 บาท ล่าสุด 18 ส.ค. 66 เวลา 10.00 น. พบผู้ทำผิดเพิ่มขึ้นเป็น 803 ราย เงินปรับรวม 1,634,200 บาท
พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า หลังจากการติดตั้งกล้อง CCTV และมีระบบ Al ตรวจจับป้ายทะเบียน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจเดินกวดขันและตั้งโต๊ะจับปรับ มีผลการจับ-ปรับ ผู้ฝ่าฝืนเดือน มิ.ย. 66 จับกุม 1,582 ราย ตักเตือน 59 ราย เดือน ก.ค. 66 จับกุม 1,480 ราย ตักเตือน 51 ราย เดือน ส.ค. 66 จับกุม 762 ราย ตักเตือน 64 ราย
สรุปผลการจับปรับตั้งแต่เดือน มิ.ย.-15 ส.ค. 66 จับกุม 3,824 ราย ตักเตือน 174 ราย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.-12 ส.ค. 66 จำนวนตัวเลขของการทำผิดกฎจราจรโดยการฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของตัวเลขในมิติที่ต่างกัน อาทิ บริเวณปากซอยเพชรบุรี, สุขุมวิท 26, พัฒนาการ 44, โรงเรียนนิเวศน์วารินทร์, เพชรเกษม 28 และปากซอยเสือใหญ่ พบว่า วินมอเตอร์ไซค์มีจำนวนการฝ่าฝืนลดลง กลุ่มไรเดอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจมี MOU ร่วมกันระหว่าง กทม. กับบริษัทไรเดอร์
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มมอเตอร์ไซค์ของประชาชนทั่วไป มีจำนวนการฝ่าฝืนสูงกว่าวินมอเตอร์ไซค์ และกลุ่มไรเดอร์ค่อนข้างมาก โดยในอนาคตจะเชื่อมโยงข้อมูลผู้กระทำผิดกับกรมขนส่งทางบกต่อไป
นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และโฆษกของกทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการสรุปผลในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายแรกคือการรณรงค์ไม่ให้ประชาชนกระทำความผิดขับขี่บนทางเท้า และร่วมมือกับ กทม. รวมถึงการเก็บข้อมูล Data ทั้งหมดจากการดำเนินการที่ผ่านมาเพื่อนำไปต่อยอดแก้ไขปัญหาในอนาคต
ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการดำเนินการในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งจากข้อมูลสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือประชาชนทั่วไป ไรเดอร์ และวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์มีผู้กระทำผิดน้อยลง และต่อจากนี้ไปจะมีการเรียกประชุมหารือกับกลุ่มบริษัทไรเดอร์ เพื่อให้เกิดการผลักดันภายในกลุ่มไรเดอร์เอง โดยมี กทม. เป็นผู้สนับสนุน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด มากกว่าการต้องบังคับใช้กฎหมายในการลงโทษ