นายธรรมพงศ์ เนาวบุตร ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และ สสน.พบว่า ขณะนี้มีพายุอยู่ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกจำนวน 3 ลูก ได้แก่ พายุไต้ฝุ่น "เซาลา (SAOLA)" พายุโซนร้อน "ไห่ขุย (HAIKUI)" และพายุดีเปรสชั่นที่ก่อตัวใหม่
แต่พายุทั้ง 3 ลูกนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย มีเพียงร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนเท่านั้นที่จะส่งผลให้มีฝนตกในบางพื้นที่ ซึ่งได้ออกประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 29 ส.ค.-3 ก.ย.66 โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมรับมือสถานการณ์ตามประกาศอย่างเคร่งครัด
สำหรับปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (23-29 ส.ค.66) มีปริมาณน้ำไหลเข้ารวม 772 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยน้ำไหลเข้าสะสมในอ่างฯ ใหญ่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ 199 ล้าน ลบ.ม., เขื่อนสิริกิติ์ 129 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิรินธร 85 ล้าน ลบ.ม. โดยคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ใหญ่สะสมในช่วงสัปดาห์ถัดไป (30 ส.ค.-5 ก.ย.66) จะมีน้ำไหลเข้าสะสมเพิ่มเติมอีก 859 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำน้อยถึง 7 แห่ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพิ่มขึ้น แต่จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำทั่วประเทศ พบว่ายังมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่แล้วอยู่พอสมควร โดยปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 43,863 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 53% ของความจุทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นปริมาณน้ำใช้การ 19,760 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ ปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังคงต่ำกว่าค่าปกติอยู่ถึง 21% จึงยังคงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการใช้น้ำอย่างประหยัด
ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำฯ กล่าวว่า จากสถานการณ์ของแหล่งน้ำทั่วประเทศที่มีปริมาณน้ำไม่มากนัก ประกอบกับสภาวะเอลนีโญที่ส่งผลให้มีปริมาณฝนน้อย และคาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า สทนช.จึงได้ออกมาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ทั้งมาตรการรับมือฤดูฝนปี 66 เพิ่มเติมจำนวน 3 มาตรการ เพื่อขับเคลื่อนในช่วงฤดูฝนนี้
พร้อมกันนี้ จะมีการจัดประชุมสัมมนาถอดบทเรียนการติดตามประเมินผลการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 65/66 และการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์เอลนีโญในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.66) เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งในฤดูแล้งหน้า ก่อนจะมีการออกมาตรการฤดูแล้ง ปี 66/67 เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพต่อไป