นายธรรมพงศ์ เนาวบุตร ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-12 ก.ย.66) มีฝนตกมากในพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือบางส่วน ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ โดยขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว ยกเว้น จ.ร้อยเอ็ด ที่คาดว่าระดับน้ำในลำน้ำยัง จะกลับสู่ระดับตลิ่งภายใน 7 วันนี้
ปริมาณฝนที่ตกลงมา ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รวม 2,091 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ปริมาณน้ำของแหล่งน้ำทั่วประเทศยังมีไม่มากนัก โดยมีปริมาณน้ำ 46,633 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 57% ของความจุ ซึ่งน้อยกว่าปริมาณน้ำในปีที่แล้วอยู่กว่า 7,000 ล้าน ลบ.ม.
โดยขณะนี้ ประเทศไทยยังคงอยู่ภายใต้สภาวะเอลนีโญ ส่งผลให้ปริมาณฝนตกน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมีฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่มีฝนมากกว่าค่าปกติเล็กน้อย อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง บริเวณ จ.อุบลราชธานี ภาคตะวันตก บริเวณ จ.กาญจนบุรี พื้นที่บางส่วนของภาคใต้ เป็นต้น
ส่งผลให้ในภาพรวม ยังคงมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติอยู่ 16% และมีแหล่งน้ำเฝ้าระวังน้ำน้อย 10 แห่ง ซึ่ง กอนช.มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดสรรน้ำตามลำดับความสำคัญของการใช้น้ำ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรงดทำนาปีต่อเนื่อง และขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด
ทั้งนี้ กอนช.ได้ติดตามแผนที่อากาศผิวพื้นร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้มีฝนตกในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่พายุดีเปรสชั่นซึ่งอยู่ทางฝั่งของประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันยังอยู่ห่างจากประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบในส่วนของปริมาณฝน
โดยจากการคาดการณ์ฝนล่วงหน้าวันที่ 13-14 ก.ย.66 จะมีฝนตกมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก วันที่ 15 ก.ย.66 จะมีฝนตกมากในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก วันที่ 16-18 ก.ย.66 ปริมาณฝนจะลดลงตามลำดับ โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนเพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย 3 วันล่วงหน้า ขณะนี้ยังไม่พบว่าอยู่ในระดับที่จะเกิดผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ คาดว่าจากปริมาณฝนตก จะช่วยให้มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ใหญ่สะสมเพิ่มอีก 2,421 ล้าน ลบ.ม. ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนที่ยังคงมีไม่มากนัก
"ปัจจุบัน สทนช.ได้เร่งเตรียมการล่วงหน้า เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากปัจจุบันใกล้สิ้นสุดฤดูฝนแล้ว โดยประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูแล้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พ.ย.66 โดยได้มีการเตรียมมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 66/67 จากการทบทวนมาตรการเดิมและเพิ่มเติมมาตรการใหม่ โดยเป็นมาตรการที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำรองรับสถานการณ์ฝนตกน้อย จากสภาวะเอลนีโญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด" นายธรรมพงศ์ กล่าว