รมว.สาธารณสุข ประกาศโครงการ Quick Win เห็นเป็นรูปธรรมภายใน 100 วัน หลังรับตำแหน่งฯ คือ เดินหน้าฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้กับหญิงอายุ 11-20 ปี ทั่วประเทศ อย่างน้อย 1 ล้านโดส
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่พบมากในหญิงไทยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม มีผู้เสียชีวิตปีละประมาณ 2,000 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 6,500 ราย อย่างไรก็ดี มะเร็งชนิดนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human papillomavirus (HPV) ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ที่ต้องฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเทศไทยได้กำหนดให้บริการฉีดวัคซีน HPV จำนวน 2 เข็ม เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตั้งแต่ปี 60 (ปัจจุบันมีอายุ 17 ปี) ดังนั้นผู้หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไป จึงยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนี้ ประกอบกับในปี 62-65 ทั่วโลกประสบปัญหาวัคซีนขาดชั่วคราวในช่วงโควิดระบาด ทำให้กลุ่มเป้าหมาย ป.5 ในปีนั้น ซึ่งปัจจุบันอายุ 13-15 ปี ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
ดังนั้น จึงได้กำหนดให้การฉีดวัคซีน HPV เป็นหนึ่งในนโยบาย Quick win "มะเร็งครบวงจร" โดยเร่งรัดการฉีดวัคซีนสำหรับหญิงอายุ 11-20 ปี ซึ่งได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค เร่งกำหนดแนวทางการให้วัคซีน และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ประเมินจำนวนกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งมอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เร่งจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม
"การฉีดจะมี 2 ส่วน คือ กลุ่มเด็ก ป.5-ม.6 จะฉีดผ่านสถานศึกษา (School-based program) โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ฉีดเป็นกลุ่มเหมือนกับที่เคยฉีดวัคซีนโควิด ส่วนอีกกลุ่มที่เป็นเด็กนอกระบบการศึกษา รวมถึงหญิงอายุ 18-20 ปี ที่จบชั้น ม.6 แล้ว จะได้รับการฉีดที่สถานพยาบาล ตั้งเป้าหมายว่าต้องฉีดวัคซีน HPV ให้ได้อย่างน้อย 1 ล้านโดส ภายในเวลา 100 วัน" นพ.ชลน่าน กล่าว