กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้
ทั้งนี้ กอนช.ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 25-30 ก.ย.66 ดังนี้
1.พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
1.1 ภาคตะวันออก
- จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง แกลง ปลวกแดง และเขาชะเมา)
- จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี มะขาม ท่าใหม่ สอยดาว เขาคิชฌกูฏ แหลมสิงห์ และขลุง)
- จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง บ่อไร่ เกาะกูด และเกาะช้าง)
1.2 ภาคใต้
- จังหวัดชุมพร (อำเภอท่าแซะ และพะโต๊ะ)
- จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ ละอุ่น สุขสำราญ และกระบุรี)
- จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง)
- จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
- จังหวัดกระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา และเกาะลันตา)
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พนม บ้านตาขุน และเกาะพะงัน)
- จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า และมะนัง)
- จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน นาโยง กันตัง ห้วยยอด หาดสำราญ รัษฎา และวังวิเศษ)
- จังหวัดพัทลุง (อำเภอป่าบอน และตะโหมด)
- จังหวัดสงขลา (อำเภอสะเดา)
- จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอช้างกลาง พิปูน ฉวาง ทุ่งใหญ่ และถ้ำพรรณรา)
2.พื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ
- ริมแม่น้ำแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก
- แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
- ลำน้ำก่ำ จังหวัดนครพนม
- ลำเซบาย จังหวัดยโสธร
- แม่น้ำลำปาว อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
- ลำน้ำยัง อำเภอโพนทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
- แม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี
- แม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง
- แม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
3.เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) จำนวน 6 แห่ง ได้แก่
- อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่
- อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี
- อ่างเก็บน้ำน้ำพุง อ่างเก็บน้ำน้ำอูน และหนองหาน จังหวัดสกลนคร
- อ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์
- อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1.ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน
2.ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ สถานีสูบน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
3.ปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ ระบบชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตามศักยภาพคลองชลประทาน ในแต่ละช่วงเวลาที่สามารถรองรับได้ พร้อมเร่งระบายน้ำท่วมขังรวมทั้งจัดจราจรทางน้ำเพื่อหน่วงน้ำลดผลกระทบทางด้านท้ายน้ำ และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำไว้ให้มากที่สุดสำหรับฤดูแล้งที่กำลังจะถึงนี้ด้วย