นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานเพื่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ การประปานครหลวง (กปน.) ว่า การเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียครั้งนี้ไม่ได้รบกวนประชาชน แต่เป็นการเก็บจากผู้ประกอบการที่มีขนาดใหญ่ โดยคิดคำนวณจากน้ำดีที่ใช้ ประมาณ 80% ที่นำมาคำนวณ โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลน้ำมาจากการประปานครหลวง การนำมาตรวัดน้ำดีมาใช้เป็นไปตามหลักสากล
"ประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะการจัดเก็บจากที่พักอาศัยของประชาชน ยังไม่มีอยู่ในแผน เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ระยะแรกคาดว่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 200 ล้านบาท ยังมีส่วนต่างอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หัวใจคือ PPP หรือ Polluters Pay Principle ผู้สร้างมลภาวะต้องเป็นผู้จ่าย เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ไม่ให้เกิดนำภาษีของประชาชนส่วนรวมมาจ่าย และเป็นกระตุ้นให้คนใช้น้ำน้อยลง" นายชัชชาติ กล่าว
ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครไม่ได้จัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย แต่มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการถึงปีละ 800 ล้านบาท ขีดความสามารถในการบำบัดคือ 1.2 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้ง 100% ทำได้เพียง 37%
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานครในครั้งนี้คาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ในต้นปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน โดยการจัดเก็บแยกเป็น 2 กลุ่ม คือสถานประกอบการ (แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2) ที่ใช้น้ำจำนวนไม่เกิน 2,000 ลบ.ม. แต่สถานประกอบการ โรงงานขนาดใหญ่ (แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3) ที่ใช้น้ำเกิน 2,000 ลบ.ม.
สำหรับวิธีการจัดเก็บกทม.จะเป็นผู้ออกใบแจ้งหนี้เอง โดยในอนาคตจะหารือการประปาเพื่อให้การออกใบแจ้งหนี้เป็นใบเดียวกัน ในส่วนของสถานประกอบการหรือโรงแรมที่มีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเองแล้วอาจจะไม่ต้องจ่ายค่าบำบัดนี้ และในส่วนของสถานประกอบการที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่บริการของโรงบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 8 แห่ง ก็ยังไม่จ่ายค่าบำบัดเช่นกัน
การคิดค่าบริการ คิดปริมาณน้ำเสียที่ 80% ของปริมาณการใช้น้ำประปาคูณด้วยอัตราค่าธรรมเนียมตามประเภทของแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ซึ่งจะเริ่มเก็บในต้นปีหน้า แบ่งประเภทและอัตรา ดังนี้
1.แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 อัตราไม่เกิน 4 บาท/ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ (ก) หน่วยงานของรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กร ระหว่างประเทศ (ข) มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล (ค) โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล (ง) โรงเรียนหรือสถานศึกษา (จ) สถานประกอบการ ที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน
2. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 อัตราไม่เกิน 8 บาท/ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ (ก) โรงแรม (ข) โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (ค) สถานประกอบการ ที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย เกินกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน
1.จุดบริการรับชำระเงินของกรุงเทพมหานคร (1) จุดบริการรับชำระเงิน ณ ฝ่ายการคลัง สำนักงานเลขานุการ สำนักการระบายน้ำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง (2) จุดบริการรับชำระเงิน ณ สำนักงานเขตทุกเขต
2. จุดบริการรับชำระเงินของธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
3. ธนาคารที่ให้บริการชำระบิลข้ามธนาคาร (Cross-bank Bill Payment) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้แก่ บริการธนาคารบนอินเทอร์เน็ต (Internet Banking) บริการธนาคารบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Banking) และเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติโดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการชำระบิลข้ามธนาคารได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งค่าธรรมเนียมเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละธนาคารหรือผู้ให้บริการ
พื้นที่บริการ จัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียในพื้นที่บริการบำบัดน้ำเสียของโรงควบคุมคุณภาพน้ำจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ สี่พระยา รัตนโกสินทร์ ช่องนนทรี หนองแขม ทุ่งครุ ดินแดง จตุจักร และศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บางซื่อ กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ 22 เขตการปกครอง ได้แก่ เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา ดินแดง ราชเทวี พญาไท ปทุมวัน บางซื่อ จตุจักร ห้วยขวาง หลักสี่ หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ ดุสิต ทุ่งครุ จอมทอง ราษฎร์บูรณะ และหลักสี่