นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน บรูไนดารุสซาลาม มาเลเซีย และสาธารณรัฐสิงคโปร์ อย่างเป็นทางการว่า นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์หาเอกอัคราชฑูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เพื่อให้กำลังใจ และฝากฝังให้ดูแลคนไทยรวมทั้งได้คุยกับ เอกอัครราชทูตไทย ประจำอิสราเอลในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งได้รายงานว่า มีคนไทยเสียชีวิต 1 ราย และมีแรงงานถูกจับกุมกักขัง 4 ราย โดยยังไม่ได้รับการยืนยันว่าอยู่ส่วนไหนของอิสราเอล โดยสถานการณ์ในขณะนี้ในพื้นที่คือ ห้ามออกจากบ้าน มีการสู้รบ น่านฟ้าปิด
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะพยายามเต็มที่ทุกวิธีทางทางการทูตเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งนี้ กำลังรอรายงานยืนยัน โดยมีแผนอพยพเตรียมพร้อมไว้ 24 ชม ซึ่งจะขอให้มีแพทย์ร่วมเดินทางในคณะด้วย แต่ขณะนี้น่านฟ้าปิด total lockdown และให้ความกังวลในระดับสูงสุด
นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เฝ้าระวัง 24 ชม. และขอให้มีรายงานประจำวันมายังนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้เบอร์ติดต่อไว้ ติดต่อได้ 24 ชม
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ได้ขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังเกิดเหตุจรวดโจมตีจากฉนวนกาซาไปยังหลายพื้นที่ในอิสราเอลและนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า อิสราเอล "เข้าสู่สงคราม"
"ผมขอส่งความห่วงใยอย่างที่สุดไปคณะผู้แทนทางการทูตไทยประจำอิสราเอล รวมทั้งทูตพาณิชย์ และทีมงาน ตลอดจนพี่น้องชาวไทยทุกคนในอิสราเอล ขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
นอกจากนี้นายภูมิธรรม เวชยชัยยังมีข้อสั่งการด่วนไปยังปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีทุกกรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ขอให้ทูตพาณิชย์ในอิสราเอล รายงานสถานการณ์และความเสียหายที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจของไทยในอิสราเอล
2. ขอให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า/กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วิเคราะห์และประเมินผลกระทบที่อาจส่งผลทางการค้าของไทยจากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ วิเคราะห์ผลกระทบต่อแผนความร่วมมือการเปิดเจรจา FTA ไทย-อิสราเอล
3 ขอให้ทูตพาณิชย์ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย/นักธุรกิจไทยในอิสราเอล ตลาดจนการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหากจำเป็น
ทั้งนี้หากมีปัญหาอุปสรรคใดขอให้รีบรายงานสถานการณ์ด่วนเพื่อทางรัฐบาลจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที