นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลล่าสุดการสู้รบยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในภาพรวมส่งผลให้มีการสูญเสียพลเรือนและทหารทั้งสองฝ่ายเป็นจำนวนมาก โดยได้รับแจ้งจากแรงงานไทยว่ามีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมเป็น 20 ราย โดยอยู่ระหว่างยืนยันโดยทางการอิสราเอล ส่วนผู้บาดเจ็บมีเพิ่มอีก 8 ราย รวมเป็น 12 ราย และผู้ที่ถูกลักพาตัวได้รับรายงานจากผู้เห็นเหตุการณ์เพิ่มอีก 3 ราย รวม 14 ราย
เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลได้เข้าเยี่ยมแรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่โรงพยาบาลใกล้กับกรุงเทลอาวีฟ พร้อมพบปะกับคณะแพทย์และพยาบาลที่ดูแล และขอให้ร่วมกันให้รักษาอย่างเต็มที่ โดยคณะแพทย์ยืนยันว่า จะช่วยดูแลรักษาผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่เฉกเช่นคนชาติอิสราเอล และได้เข้าเยี่ยมกลุ่มแรงงานไทยที่อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงใกล้ฉนวนกาซา ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อให้กำลังใจ และให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ตรวจสอบรายงานข่าวแรงงานไทยจำนวน 14 ราย ที่หลบซ่อนอยู่ในโมซาฟ Ein Hashlosha เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 ต.ค. และได้รับการช่วยเหลือให้ปลอดภัยโดยทางการอิสราเอลแล้ว พบว่าไม่ได้เป็นกลุ่มที่อยู่ในรายชื่อแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน โดยกองทัพอิสราเอลและบริษัทจัดหางานได้เร่งอพยพคนในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงแรงงานไทยออกไปยังจุดปลอดภัยได้แล้วหลายร้อยคน โดยจะไปพักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือทำงานในนิคมเกษตรกรรมในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ที่ปลอดภัย
สำหรับการอพยพคนไทย ในวันพรุ่งนี้แรงงานไทย 15 คน จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบิน LY 083 เวลา 10.35 น. ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และมีผู้ที่แสดงความประสงค์กลับไทย 5,019 ราย และ ต้องการคงอยู่ในอิสราเอล 61 ราย
สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ อยู่ระหว่างประสานที่เกี่ยวข้องเพื่อสำรองที่นั่งสายการบินพาณิชย์เพื่ออพยพคนไทยในวันที่ 18 ต.ค.และเตรียมการรับเครื่องบินของกองทัพอากาศ ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้าของประเทศต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจ (flight clearance) ซึ่งช่วงบ่ายของวันนี้ จะมีการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง