กลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล พร้อมกับยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์และสนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 ของรัฐบาล ภายหลังจากมีนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) บางส่วนออกมาคัดค้านนโยบายดังกล่าว โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายจุติพงษ์ พุ่มมูล แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต อ่านแถลงการณ์ ที่ระบุว่า ตามที่กลุ่มนักวิชาการ และผู้เห็นต่างทางการเมือง ออกมาคัดค้านนโยบายดังกล่าวนั้น ทางกลุ่มเห็นว่านโยบายนี้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมในการสร้างโอกาสและต่อลมหายใจในการดำรงชีวิตของประชาชน และตลอดจนสร้างอาชีพ และทำให้คนไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ลืมตาอ้าปากได้ จึงขอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงและแถลงต่อรัฐสภา
ส่วนการคัดค้านของฝ่ายนักวิชาการที่ออกมานั้น มีอคติต่อรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เห็นหัวประชาชนคนยากจน จึงพยายามชี้ให้เห็นว่านโยบายดังกล่าว ขัดต่อนโยบายการเงินการคลังหรือจะทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ โดยไม่มีความเข้าใจถึงเรื่องพายุหมุนทางเศรษฐกิจ หรือ Digital Economics พร้อมมองว่าการคัดค้านดังกล่าว ทำให้เห็นว่าคนรวยบางกลุ่มมองไม่เห็นหัวคนจนรากหญ้า ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
"ประเทศเสียโอกาสและเวลามามากพอแล้ว กับความเห็นต่างที่ล้าหลัง ขอให้รัฐบาลดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เห็นต่างที่มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นที่ให้ไปถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนที่เห็นด้วย แสดงความจำนงผ่านมายังช่องทางสื่อของรัฐบาล เพื่อเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต" นายจุติพงษ์ กล่าวอีกว่า
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อมีหลายท่านแสดงความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน รัฐบาลยินดีที่จะนำความเห็นทุกกลุ่มไปศึกษาพูดคุยกัน และยืนยันรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ แต่จะหาสิ่งที่ลงตัว เนื่องจากเท่าที่ตนได้สัมผัสทั้งพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลก็เห็นด้วย แม้จะมีมีบางส่วนไม่เห็นด้วย แต่ก็จะรับฟัง โดยช่วงเย็นวันนี้ ตนจะไปพูดคุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ถึงประเด็นที่มีความเห็นต่างกันด้วย
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จับตานโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายสมคิด กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า ป.ป.ช.จะจับตาเรื่องอะไร เพราะนโยบายดังกล่าว ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอนเลือกตั้งไปแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะผิดอะไร
ส่วนผู้ที่ออกมาคัดค้าน จะเป็นเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น นายสมคิด กล่าวว่า มีบางคนก็อคติเกินไป แต่บางคนก็ติติงในเชิงหลักการ ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นขึ้นได้