นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เข้าหารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (H.E. Dato? Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย ณ เมืองปุตราจายา ซึ่งการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสในการย้ำความมุ่งมั่น และต้องการที่จะทำงานเพื่อเดินหน้าศักยภาพและความร่วมมือระหว่างกัน บนพื้นฐานของสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางเยือนประเทศไทย
พร้อมกันนี้ นายเศรษฐา ยังได้เสนอความร่วมมือทางด้านอาหาร สินค้าเกษตร ซึ่งไทยมีความมั่นคงทางอาหาร จึงหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันที่จะตั้งคณะทำงานร่วมกัน (Task force group) ในด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น ด้านการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
โดยผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนี้
ไทยและมาเลเซีย ต่างเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะตั้งเป้าหมายการค้า (Bilateral trade) ระหว่างกันใหม่ โดยต่างฝ่ายต่างเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของกันและกันในอาเซียน ซึ่งการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการเชื่อมโยงข้ามพรมแดนจะเป็นกุญแจสำคัญ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว โดยต่อยอดจากความร่วมมือที่มีอยู่ รวมถึงสำรวจความร่วมมือในการเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่า และระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (hi-tech sectors) รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (proton) รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)
นายกรัฐมนตรี มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงภาคใต้ของประเทศไทย และตอนเหนือของมาเลเซีย ให้เป็นพื้นที่การเติบโตใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งเร่งรัดความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงที่สำคัญต่าง ๆ ที่จะเชื่อมต่อ 2 ประเทศเข้าด้วยกัน และจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า และการเดินทางของประชาชน ซึ่งหากประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามชายแดนได้ง่ายขึ้น และทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณชายแดน ก็จะช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว และส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจท้องถิ่นให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้งเป็นพื้นที่การค้า
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไทยและมาเลเซีย เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคภายใต้อาเซียน รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือกับมาเลเซียเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน และส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค