นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เร่งดำเนินการเชิงรุกในการจับกุมตัวผู้กระทำผิดในคดีออนไลน์ที่ตำรวจรับแจ้งความไว้ 330,000 คดี มีมูลค่าความเสียหายกว่า 45,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมายังมีการจับกุมผู้กระทำผิดทำได้น้อย รวมทั้งหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดคดีที่มีความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะยาบ้า ได้กำหนดจำนวนและปริมาณที่ถือว่าเป็นผู้เสพคือ ไม่เกิน 10 เม็ด เพราะฉะนั้นจำนวนที่เกินไปกว่านั้นให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้ค้า แต่ในกรณีที่ครอบครองยาบ้าจำนวน 10 เม็ดนี้ หากเป็นการทำในเชิงการค้าก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ป่วย โดยให้เร่งใช้วิธีชุมชนบำบัด และมีการดำเนินการโดยกำหนด KPI ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นเจ้าภาพในการวางแผนและประสานขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยดูแล