นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการปราบปรามและแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคสินค้าเกษตรอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อเกษตรกรให้มีความมั่นคงทางอาชีพ ผลักดันผลผลิตทางการเกษตรให้มีมูลค่าสูง ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดียิ่งขึ้น โดยได้ไปตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรสังขละบุรี เพื่อเปิดจุดตรวจสินค้าแบบบูรณาการ (ปศุสัตว์ พืช ประมง) ซึ่งเป็นจุดตรวจที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทั้งกรมวิชาการเกษตร การยางแห่งประเทศไทย กรมปศุสัตว์ กรมประมง สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่เพื่อสกัดและตรวจสอบสินค้าเกษตรนำเข้าที่ผ่านเส้นทาง อ.สังขละบุรี
ทั้งนี้ กยท.ได้เร่งเตรียมความพร้อมดำเนินมาตรการคู่ขนาน เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในการป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายเข้าสู่ไทย โดยจะจัดตั้งทีมสายลับยางเพื่อทำงานร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ เฝ้าระวังและสอดส่องการกระทำผิดกฎหมาย หากพบเบาะแสจะแจ้งแก่หน่วยงานผู้มีอำนาจดำเนินการจับกุมต่อไป
อย่างไรก็ตาม กยท.พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และจะชี้แจงให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางทราบถึงโทษการรับซื้อสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายหรือหลีกเลี่ยงภาษี และกำกับควบคุมสถาบันเกษตรกรฯ ไม่ให้รับซื้อยางที่ผิดกฎหมาย โดยจะขยายผลดำเนินการไปยังพื้นที่รอยต่อระหว่างพรมแดนอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ระนอง ตาก เชียงราย เป็นต้น ตามนโยบายและข้อสั่งการของ รมว.เกษตรฯ ที่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่ปลูกยางพารา 103,705.86 ไร่ มีปริมาณผลผลิตเนื้อยางแห้งรวมทั้งจังหวัด 24,313.27 ตัน/ปี เป็นยางแผ่นดิบ 13,894.41 ตัน/ปี โดยใน อ.สังขละบุรี มีพื้นที่ปลูกยางพารา 22,858.68 ไร่ มีปริมาณผลผลิตเนื้อยางแห้ง 5,506.53 ตัน/ปี เป็นยางแผ่นดิบ 4,065.93 ตัน/ปี โดย กยท.จังหวัด และ กยท.สาขา ที่อยู่ในพื้นที่เขตพรมแดนจะวางแผนสำรวจการผลิตยางธรรมชาติของเกษตรกรทั้งรูปแบบของผลผลิตยางที่ขาย จำแนกเป็นน้ำยางสด ยางก้อนถ้วย ยางแผ่นดิบ ซึ่งจะทำให้ทราบได้ว่าปริมาณยางที่ขายในพื้นที่นั้นๆ มียางเถื่อนปนอยู่ด้วยหรือไม่ และกำหนดเป้าหมายสำรวจข้อมูลดังกล่าวให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
"นโยบายของรัฐมนตรีเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับการควบคุมการลักลอบนำสินค้าเกษตรผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยอย่างจริงจัง และผลักดันการทำงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อขยายผลให้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตร และยกระดับรายได้แก่เกษตรกรให้มีความกินดีอยู่ดียิ่งขึ้น" นายณกรณ์ กล่าว