นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 5) ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ส่งคืนร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ. ... จากการหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา และได้คำวินิจฉัยว่า กทม. ไม่มีอำนาจในการออกข้อบัญญัติดังกล่าว และให้กทม. หารือกรมการขนส่งทางบก เพื่อออกข้อบัญญัติ ซึ่งในภาพรวมทุกฝ่ายอยากเห็นสภาพอากาศที่ดีขึ้น จึงต้องขอส่งข้อบัญญัติฉบับนี้คืนกับสภากทม.
"การดำเนินการของกทม. ในขั้นตอนต่อไป จะได้นำเรื่องนี้ไปหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และรัฐบาล เพราะสุดท้ายคือต้องการให้มีรถ EV ให้มากขึ้น เพื่อให้อากาศสะอาดและเป็นไปตามความต้องการของประชาชนต่อไป" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ขณะที่ประธานสภากทม. กล่าวว่า การที่สภากทม. เป็นห่วงสุขภาพประชาชนเป็นเรื่องที่ดี และทุกคนเห็นชอบร่วมกัน การส่งคืนเรื่องของผู้ว่าฯ ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นไปตามที่ข้อกฎหมายรองรับอยู่ โดยคำสั่งของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ว่า หากมีเรื่องในทางกฎหมาย และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีให้ความเห็น หากกฤษฎีกาให้ความเห็นมาแล้วให้หน่วยงานถือปฏิบัติ ซึ่งในเรื่องข้อบัญญัติ เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ. ... นี้ ให้ถือว่าไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากไม่ใช่อำนาจของกทม.
ด้าน นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา กล่าวว่า ในฐานะผู้ที่ยื่นข้อบัญญัตินี้ รู้สึกเสียใจที่ร่างข้อบัญญัติฉบับนี้ไม่ผ่าน ซึ่งเรื่องที่กทม. จะทำได้ อาจต้องส่งจดหมายไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอให้มอบอำนาจให้กทม. ออกข้อบัญญัตินี้เองได้ หรือประสานกรมการขนส่งทางบก อาศัยอำนาจตามกฎหมายที่กำหนดให้เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด หากผ่านไปได้จะถือเป็นผลงานที่สำคัญของสภากทม. และฝ่ายบริหารที่จะผ่านข้อบัญญัติอากาศบริสุทธิ์เพื่อประชาชนทุกคน