นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หลังเกิดปัญหามีผู้ลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลไปซื้อขาย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) หามาตรการป้องกันการโจรกรรมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อมูลเกิดความรั่วไหล มาจากหน่วยงานภาครัฐขาดการเฝ้าระวัง ขาดการตรวจสอบ ขาดความเอาใจใส่ในการจัดระบบป้องกัน ขาดความตระหนักรู้ โดยกำหนดมาตรการเร่งด่วนให้สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ตั้งศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 30 วัน ซึ่งในการดำเนินการตรวจสอบระหว่างวันที่ 9-20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยตรวจสอบหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 3,119 แห่ง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9,000 แห่ง พบข้อมูลรั่วไหล 1,158 เรื่อง แก้ไขแล้ว 781 เรื่อง มีการซื้อขายข้อมูล 3 เรื่อง ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ส่งเรื่องให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ดำเนินคดี
ส่วนมาตรการระยะต่อไปในช่วง 6 เดือน จะเร่งรัดปิดกั้นการซื้อข่ายข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด พร้อมทั้งให้ใช้ระบบคลาวด์ของภาครัฐ และมาตรการในช่วง 1 ปี จะมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มบทลงโทษ