พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความผิดทางเทคโนโลยีคมนาคมและความมั่นคงแห่งรัฐว่า การประชุมวันนี้ (27 พ.ย.) เป็นการเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากสำนักงานสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ส่งบัญชีหมายเลขโทรศัพท์ที่มีการแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ Thaipolice online จำนวน 41,398 หมายเลข ในจำนวนนี้เป็นหมายเลขที่โทรหลอกลวงและส่ง sms 11,219 หมายเลข เป็นหมายเลขที่ผูกกับบัญชีม้า 30,179 หมายเลข
กสทช.ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) จะกรองหมายเลขที่มีการกระทำความผิด แล้วแจ้งประสานขอข้อมูลไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอทราบว่า ใครเป็นผู้ถือครองและผู้ใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ กสทช.ต้องการทราบข้อมูลสำคัญที่เป็นข้อมูลการโทร เช่น ใครเป็นผู้ถือครอง มีการโทรไปที่ใดบ้าง โทรไปบ่อยแค่ไหน ตำแหน่งที่ใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ที่ไหน รวมถึงข้อมูลการชำระเงินเพื่อติดตามเอาผิดคนร้าย โดยการติดตามเอาผิด กสทช.จะติดตามย้อนหลังไปถึงวันที่ 17 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่พระราชกำหนดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีผลบังคับใช้
สำหรับความคืบหน้าการใช้มาตรการกำกับดูแลการถือครองซิมโทรศัพท์มือถือ หากมีการถือครองเกิน 5 หมายเลข ขึ้นไปจะต้องมายืนยันตัวตนกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ถือครองซิมโทรศัพท์และเป็นผู้ใช้งาน โดยบอร์ดกสทช.ได้เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศการยืนยันตัวตนของผู้ถือครองซิมโทรศัพท์ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โดยให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มก่อนจะนำผลเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดกสทช. โดยคาดว่าจะประกาศใช้เร็วที่สุดกลางเดือนธันวาคม ช้าที่สุดต้นปี 2567