พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีขบวนการหมูเถื่อนว่า วันนี้จะมีการเปิดปฏิบัติการต่อเนื่องในกลุ่มที่มีการรับซื้อเศษชิ้นส่วนสุกรเพื่อนำไปขายต่อ โดยจะดำเนินการกับกลุ่มที่ 2 หรือกลุ่มนายทุนที่มีพฤติการณ์สั่งนำเข้าชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งเพื่อนำมากระจายจัดจำหน่าย กลุ่มนี้ถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรรายย่อยอย่างมาก
สำหรับพื้นที่เป้าหมายที่จะลงตรวจค้นในวันนี้ จะนำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าตรวจค้นแหล่งรับซื้อชิ้นส่วนสุกรอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมาจากการขยายผล ซึ่งเราพบทั้งเรื่องยอดเงินหมุนเวียนและพยานหลักฐานสำคัญต่างๆ โดยมีการสั่งนำเข้าชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งและมีการกระจายออกไปยังที่ต่างๆ ซึ่งดีเอสไอจะติดตามว่าชิ้นส่วนสุกรเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน ส่วนมูลค่ายอดเงินหมุนเวียนเบื้องต้นในสำนวนยังไม่ถึงหลัก 1,000 ล้านบาทสำหรับพื้นที่เป้าหมายนี้ แต่ถ้าหากได้สืบค้นไปเรื่อยๆ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็พร้อมจะเปิดเผยทุกการดำเนินการของพนักงานสอบสวน
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีการขีดเส้นตายภายในสัปดาห์นี้ในการติดตามจับกุมตัวการใหญ่นั้น พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า เราจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมแน่นอน และจะมีการจับกุมกลุ่มบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง อีกทั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เน้นย้ำว่าหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครให้เอาผิดทั้งหมดไม่มีละเว้น
แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาในการปราบปรามขบวนการนี้ได้ เพราะพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เนื่องจากพบพยานหลักฐานเอกสารและกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนเพื่อเอาผิดทางอาญากับผู้ต้องหาได้จริงและให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
รวมทั้งการออกหมายจับเพิ่มเติมในตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะมีคนเกี่ยวข้องจำนวนมาก ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการจัดแบ่งเป็นกลุ่ม และที่เราต้องเร่งขยายผลต่อ คือ กลุ่มขององค์กรอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้า 2,385 ตู้ เบื้องต้นพบว่าตัวการหลักอาจมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 รายแน่นอน
อธิบดี DSI ระบุว่า คณะพนักงานสอบสวนไม่เพียงเชื่อคำให้การของกลุ่มผู้ต้องหาเพียงอย่างเดียว จึงต้องมีการเปิดปฎิบัติการตรวจค้นหลายพื้นที่เป้าหมายเพื่อให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานสำหรับการสนับสนุนหรือตรวจสอบคำให้การของพยานและผู้ต้องหาว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการกระทำผิดในเรื่องนี้จริง และหากประชาชนท่านใดยังคงมีข้อมูลเบาะแสสามารถส่งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การเข้ามอบตัวของกลุ่มผู้ต้องหาที่ผ่านมาค่อนข้างให้การเป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดี เพราะมีการให้การไปถึง ทำให้ขยายผลไปยังกลุ่มนายทุนได้ นอกเหนือจากพยานเอกสารหลักฐานต่างๆที่ดีเอสไอไปตรวจค้นและยึดมาได้ ถือว่าการทำงานของเราที่เดินทางมาถึงวันนี้มีความพอใจพอสมควร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา นายพิเชฐ แซ่ซี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท ซี เวิรล์ โฟรเซ่น ฟูด จำกัด พร้อมด้วยทนายความได้เดินทางเข้ามอบตัวกับชุดปฏิบัติการของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวของ DSI และในวันที่ 24 พ.ย. นายสมนึก กยวัฒนกิจ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับชุดปฏิบัติการของ DSI โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทราบแล้วจึงควบคุมตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป