นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเปิดให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ลงทะเบียนเพื่อขอความช่วยเหลือจากกลไกของรัฐ ในโครงการแก้หนี้นอกระบบ ว่า วันนี้เป็นวันแรก (1 ธ.ค.) ที่สามารถไปลงทะเบียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอ รวมทั้งการลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์
กรณีปัญหาว่าเจ้าหนี้กลัวถูกตรวจสอบภาษี ไม่กล้ามาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรม โครงการนี้ไม่ใช่การลดหนี้ ยกหนี้ พักหนี้ และรัฐบาลไม่ได้ชำระหนี้ให้ แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งถ้าคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลูกหนี้ก็จะสามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่ถูกเบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ไม่ต้องไปกดดัน กดขี่ ข่มเหง หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย
"เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เสียหายกับลูกหนี้ และเจ้าหนี้ และยืนยันว่าลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่ แต่มีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้" นายอนุทิน ระบุ
ส่วนกรอบเวลาที่จะเห็นผลสำเร็จของการแก้หนี้นอกระบบนั้น นายอนุทิน ขอให้รอฟังรายละเอียดในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะเป็นประธาน Kick Off ร่วมกับหน่วยงานที่จะดำเนินการ คือ นายอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดประชุมที่เมืองทองธานี
นายอนุทิน กล่าวว่า การแก้หนี้เป็นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ไม่ได้มีเจตนาที่จะขุดคุ้ยปูมหลัง ขอให้อย่ากังวล โดยกระบวนการไกล่เกลี่ยนั้น ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะมีทั้งศาสตร์และศิลปในการเข้าไปไกล่เกลี่ยประนีประนอม ซึ่งคงไม่ได้มีวิธีการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการไกล่เกลี่ยแล้วเจ้าหนี้ไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย ก็ต้องเอาสัญญากู้เงินมาดู ถ้าตรงไหนขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่ต้องปฏิบัติตาม และจะมีการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยังคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงจนเกินความสามารถที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ได้นั้น ส่วนนั้นก็จะหายไป แต่โครงการของรัฐบาลจะเกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายเจ้าหนี้ได้เงินคืน ไม่มีการเบี้ยวหนี้ ลูกหนี้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
"ลูกหนี้อย่าดีใจ เพราะไม่ใช่การพักหนี้ ลูกหนี้ต้องจ่ายทุกบาททุกสตางค์ และที่เข้าใจว่ารัฐบาลจะจ่ายหนี้ให้นั้น ไม่ใช่ แต่เป็นการช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า จึงขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อนจะบอกว่าหนี้ใคร หนี้มัน" นายอนุทิน กล่าว