นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรองโฆษก ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายดนัย ดำรงชัยโยธิน นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่สรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกรวม 4 ราย ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งจากการไต่สวนพบว่า รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากในธนาคารที่ได้มาโดยไม่สัมพันธ์กับรายได้ เกินกว่าฐานะและรายได้ที่ได้รับจากราชการ และไม่สามารถชี้แจงที่มาของรายการเงินฝากได้ จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมเป็นเงิน 2,085,348,581.53 บาท ดังนี้
1.บัญชีเงินฝากจำนวน 7 บัญชีของนายดนัย ดำรงชัยโยธิน รวม 1,189,273,347.48 บาท
2.บัญชีเงินฝากจำนวน 5 บัญชีของนางชลธาร คงมั่น รวม 559,946,602.03 บาท
3.บัญชีเงินฝากจำนวน 3 บัญชีของ น.ส.ดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ รวม 334,246,632.02 บาท
4.บัญชีเงินฝากจำนวน 1 บัญชีของ น.ส.อุทุมพร เข็มวิชัย รวม 1,882,000 บาท
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้กรมสรรพากรดำเนินการลงโทษไล่ออกในกรณีร่ำรวยผิดปกติ โดยให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 122