น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ด้วยกิจกรรมในชีวิตประจำวันของประชาชน ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่ปีนี้สถานการณ์เอลนีโญทวีความรุนแรง ส่งผลให้อากาศร้อน-แล้งมากขึ้น จึงเสี่ยงเกิดไฟป่ามากกว่าปีที่ผ่านมา และท้ายที่สุดก็วนกลับมาสร้างปัญหาหมอกควันข้ามแดนตามวงรอบเดิม จึงทำให้คณะกรรมการสิ่งแวตล้อมแห่งชาติ ได้ปรับเกณฑ์ค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ใหม่ ให้เข้มข้นขึ้น ระบุไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เพื่อสุขภาพของคนไทย และใกล้เคียงกับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO)
"ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ ประชาชนจึงเห็นว่าพื้นที่คุณภาพอากาศสีส้ม และสีแดงเพิ่มขึ้น เพราะมีการปรับเกณฑ์เข้มข้นขึ้นนั่นเอง" รองโฆษกรัฐบาล ระบุ
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองอย่างจริงจัง พร้อมถอดบทเรียนการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองในแต่ละปี เพื่อทบทวนและปรับแนวทางรับมือในปีถัดไปอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่สำหรับทุกคน โดยที่ประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน มีมติเห็นชอบ 6 มาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 และ 3 แนวทางสนับสนุนการลดฝุ่น PM 2.5 จากการทำงานบูรณาการร่วมกันของหลายกระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดเงื่อนไขการอนุญาตเผาและการบริหารจัดการการเผา, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งรัดการนำระบบรับรองผลผลิตทางการเกษตรแบบไม่เผา มาใช้กับการปลูกอ้อย ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, กระทรวงอุตสาหกรรม มีมาตรการไม่รับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ
ด้านกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาสิทธิประโยชน์ของภาลเอกชน เพื่อสังคมและสิ่งแวตล้อม โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสามารถยกเว้นภาษีเงินได้, รายงาน ESG/SDGs และ Carbon Credit, กระทรางพาณิชย์ มีการพิจารณาเพิ่มเงื่อนไข เรื่องการเผาในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และกระทรวงพลังงาน ได้กำหนดการผลิต-จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5
"รัฐบาลจะผลักดันให้ พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... เป็นร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ผ่านที่ประชุมสภาฯ ให้สำเร็จ เพื่อที่จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ทั้งเชิงป้องกัน แก้ไข และแนวทางจัดการหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม โดยขณะนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบส่งสภาฯ พิจารณาต่อแล้ว" น.ส.เกณิกา กล่าว