นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมถกค่ายรถยนต์รายใหญ่

ข่าวทั่วไป Thursday December 14, 2023 10:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมถกค่ายรถยนต์รายใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียนญี่ปุ่นของ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ร่วมคณะเดินทางไปด้วย

สำหรับภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรี จะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. โดยนายเศรษฐา จะพบกับ รมว.เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น พร้อมกล่าวปาฐกถาในงาน Thailand-Japan Investment Forum

นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมถกค่ายรถยนต์รายใหญ่

จากนั้นนายกฯ จะพบหารือบริษัทเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่น 8 บริษัท อาทิ บริษัท Toyota Motor Corporation, บริษัท Honda Motor จำกัด บริษัท Suzuki, บริษัท Nissan ,บริษัท Mitsubishi ,บริษัท Mitsui, บริษัท Isuzu และบริษัท Kubota เป็นต้น

ส่วนในวันที่ 16 ธ.ค. นายกฯ พบหารือกับประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ก่อนที่ช่วงค่ำ นายกฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยา เป็นเจ้าภาพ

ต่อมาวันที่ 17 ธ.ค. นายกฯ พบหารือทวิภาคีกับนายกญี่ปุ่น จากนั้นในช่วงเย็น นายกฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (The Commemorative Summit for the 50th Year of ASEAN-Japan Friendship and Cooperation)

โดยนายกฯ จะกล่าวถ้อยแถลง และร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ และจะร่วมประชุมหารือโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ในวันที่ 18 ธ.ค.

ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 18 ธ.ค. นายกฯ มีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ที่พระราชวังอิมพีเรียล ก่อนเดินกลับช่วงดึกคืนวันที่ 18 ธ.ค.

*BOI ตั้งเป้าไทยเป็นฮับสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังว่า บีโอไอเตรียม 3 ภารกิจหลักให้นายกฯ คือ การร่วมสัมนากับภาคการค้าการลงทุนและภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เป็นงานใหญ่ที่สุดหลังมีโควิด-19 มีนักธุรกิจญี่ปุ่นเข้าร่วมกว่า 500 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะกล่าวถึงทิศทางและมาตรการด้านเศรษฐกิจ เพื่อสื่อสารให้เห็นถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลไทยว่า มุ่งเน้นใน 5 สาขาหลัก คืออุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ อุตสาหกรรมดิจิทัลสร้างสรรค์ และการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของบริษัทต่างๆ เพราะญี่ปุ่นลงทุนในไทยมานาน 40-50 ปี มีฐานการผลิตในประเทศไทย

แต่สิ่งที่อยากเชิญชวนให้ญี่ปุ่นมาลงทุน มากกว่าการเป็นฐานการผลิตนั้น คือ การวิจัยและพัฒนาและการตั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย โดยช่วง 4 ปี จากนี้ตั้งเป้าว่าจะมีบริษัทชั้นนำของโลกกว่า 100 บริษัทให้เขามาตั้งสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคในไทย เพื่อสร้างแรงงานทักษะสูงไม่ต่ำกว่า 10,000 อัตราและต่อยอดไปสู่ธุรกิจต่างๆ ต่อไป

ส่วนที่ 2 นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับ 7 บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ส่วนนี้จะพูดคุยถึงแผนการลงทุน และสื่อสารมาตรการในการสนับสนุนของรัฐบาลไทย เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับบริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่น ซึ่งเขาอยากให้เราสนับสนุนการทำรถยนต์ อีวี รถไฮบริด และอีโคคาร์ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะมาในอนาคต ทั้งเรื่องพลังงานสะอาด และการประหยัดพลังงาน การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมกันนี้ยังจะพบกับภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เช่น พานาโซนิค ที่เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีและแบตเตอรี่ระดับโลก รวมถึง คูโบต้า ผู้ผลิตเครื่องมือการเกษตรรายใหญ่ในประเทศไทย และบริษัท มิตซุย ที่มีความสนใจเรื่องของพลังงานและเคมี ซึ่งการพบบริษัทพานาโซนิค ที่ลงทุนในไทยมายาวนาน และปัจจุบันมีโรงงานในไทยกว่า 10 แห่งนั้น เขาเพิ่มการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอร์รี่รถยนต์อีวี และระบบกักเก็บพลังงานรายใหญ่ของโลก เราก็อยากเชิญชวนให้มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่วนคูโบต้า อยากให้มาช่วยพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่

ส่วนที่ 3 นายกรัฐมนตรีและ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และบีโอไอ จะนำเสนอโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ต่อบริษัทเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ลงชื่อเข้าร่วมแล้วกว่า 40 คน อาทิ บริษัทที่เกี่ยวกับการสร้างท่าเรือ การเดินเรือ การประกันภัย การธนาคาร เป็นต้น โดยจะร่วมรับฟังความคิดเห็นกับบรรดาบริษัทเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการร่างทีโออาร์ในอนาคตด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ