นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส และยะลา รวม 13 อำเภอ 58 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9,697 ครัวเรือน แบ่งเป็น
1. นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอศรีสาคร อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอยี่งอ และอำเภอรือเสาะ รวม 44 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9,558 ครัวเรือน โรงเรียนเสียหาย 1 แห่ง ระดับน้ำลดลง
2. ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอธารโต อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา และอำเภอรามัน รวม 14 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 139 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาลงท่วมหมู่บ้านใน ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อกลางดึกที่ผ่าน ส่งผลให้บางพื้นที่น้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ซึ่งถือว่าหนักสุดในรอบ 40 ปี ชาวบ้านไม่สามารถขนย้ายสิ่งของได้ทัน ทำให้ข้าวของเสียหายอย่างมาก ส่วนถนนในหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรได้ เพราะระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง และบางบ้านน้ำท่วมสูงถึงระดับหลังคาแล้ว
ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศปิดเส้นทางเดินรถสายใต้จากสุไหงโก-ลก-ยะลา เนื่องจากรางรถไฟขาดบริเวณเส้นทางตันหยงมัส-ป่าไผ่ จากเหตุอุทกภัย ทำให้รถทุกขบวนจากสุไหงโก-ลกงดเดินรถ ส่วนผู้ใช้บริการที่เดินทางโดยรถด่วน รถเร็ว ขบวนสุไหงโก-ลก-กรุงเทพอภิวัฒน์ จะให้บริการต้นทาง-ปลายทางจากสถานีรถไฟยะลา และขนถ่ายผู้โดยสารโดยรถยนต์ต่อไป