ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ สายอาชญากรรม ตั้งฉายาตำรวจ ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา เพื่อร่วมสะท้อนผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสู่สายตาประชาชน โดยปีนี้ได้คัดเลือกมาเพียง 11 นาย ดังนี้
1. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ฉายา "ต่อ เฟรนลี่"
ที่ผ่านมา สื่อมวลชนสายอาชญากรรม ขนานนามให้ว่าเป็น "มือปราบสายธรรมะ" เนื่องจากเป็นนายตำรวจที่ใช้หลักธรรมในการทำงาน และหลักรัฐศาสตร์ เดินสายปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน "บิ๊กต่อ" ยังเป็นคนเรียบง่าย ไม่ถือตัว บ่อยครั้งจะเห็นภาพร่วมวงกินข้าวกับผู้ใต้บังคับบัญชา วางตัวเป็นกันเองกับลูกน้อง เน้นสวัสดิการให้ลูกน้อง ใครต่อใครก็เข้าถึงได้ เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย เป็นที่รักของลูกน้องจำนวนมาก
2. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ฉายา "สุภาพบุรุษสีกากี"
ถือเป็นนายตำรวจที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ ผ่านงานทุกระดับ ทั้งงานปราบปราม งานสืบสวน และความมั่นคง มีลุ้นเป็นตัวเต็งนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง แต่ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย แม้มีกระแสข่าวว่าจะถูกโยกไปรับตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นการตอบแทนที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น "บิ๊กรอย" ก็ยังคงปักหลักทำงานในหน้าที่ต่อไป
3. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ฉายา "โจ๊ก รอได้"
ไม่มีใครไม่รู้จัก และด้วยฝีไม้ลายมือการทำงานที่ปรากฏต่อสายตาประชาชน ประกอบกับอายุราชการที่ยังคงเหลืออีกหลายปี ทำให้ถูกจับตาว่ามีสิทธิ์ที่จะขึ้นเป็น ผบ.ตร. หากไม่มีอะไรสะดุด ในปี 2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะกลายเป็นอาวุโสอันดับ 1 ทันที และก็อาจจะมีสิทธิ์ได้ใช้นามเรียกขาน "พิทักษ์ 1" แต่ก็ต้องผ่านอีกกี่ขวากหนามบนเส้นทางสู่ ผบ.ตร. อีกทั้งเจ้าตัวก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "รอได้ ใครอยากเป็น ผบ.ตร.ก็เป็นไปก่อน" จึงเป็นที่มาของฉายา "โจ๊ก รอได้"
4. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฉายา "หลวงโดดปราบยา"
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ มีชื่อเล่นว่า "หลวง" เป็นนายตำรวจที่เก่งทั้งบู๊และบุ๋น และเป็นหนึ่งเดียวในระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รับความไว้วางใจจาก ผบ ตร. ดูแลงานครบทุกหน้างานและทุกมิติ ทั้งงานสืบสวน สอบสวน งานป้องกันปราบปราม งานมั่นคง และกิจการพิเศษ อีกทั้งยังได้รับมอบหมายให้ดูแลงานป้องกัน บำบัด ผู้ติดยาเสพติด ที่ผ่านมา นำกำลังตำรวจระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดจับผู้ต้องหาได้มากกว่า 60,000 คน ขยายผลจนไปถึงผู้ซื้อและตัวแทนจำหน่ายยาเสพติด 209 แห่งทั่วประเทศ จนได้รับการเสนอชื่อกระโดดข้ามห้วยเป็นข้าราชการพลเรือน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จึงเป็นที่มาของฉายา "หลวงโดดปราบยา"
5.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา "จ้าว แข็งโป๊ก"
นามเรียกขาน "น.1" ด้วยฝีไม้ลายมือที่เป็นที่ยอมรับให้คุมพื้นที่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นนายตำรวจที่ได้ชื่อว่ามีความตงฉิน ยอมหักไม่ยอมงอ และไม่ยอมรามือให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกนอกลู่นอกทาง เน้นย้ำภารกิจสำคัญสูงสุด "ถวายความปลอดภัย" รวมถึงการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล กำชับเรื่องปัญหายาเสพติด บ่อนการพนัน สถานบริการ
การแต่งตั้งที่ผ่านมา หลายคนคิดว่า พล.ต.ท.ธิติ ต้องได้ย้ายหรือไม่ก็ขยับขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. เนื่องจากเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แต่ก็ยังรักษาเก้าอี้ "น.1." ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จึงเป็นที่มาของ ฉายา "จ้าว แข็งโป๊ก"
6. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ฉายา "บิ๊กอรรถ กัดไม่ปล่อย"
พล.ต.ท.ไตรรงค์ มีชื่อเล่นว่า "อรรถ" ที่ผ่านมาเคยเป็นหัวหน้าทีมคดี "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจาร โดยทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่เลือกปฏิบัติ แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะมีตำแหน่งใหญ่ก็ตามช่วงในรอบปีที่ผ่านมาก็ฝากผลงานไว้มากมาย จากการที่สวมหมวกเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT นำกำลังไล่กวาดล้างจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ ที่สร้างความเดือดร้อนมอมเมาเยาวชนและพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก และเกาะติดไล่ล่าชนิดถอนรากถอนโคน จึงเป็นที่มาของ ฉายา "บิ๊กอรรถ กัดไม่ปล่อย"
7.พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ฉายา "เพชฌฆาต โจรไซเบอร์"
เป็นอีกหนึ่งนายตำรวจที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับของประชาชน ที่ผานมา นำกำลังขุนพลไซเบอร์ออกปราบปรามเหล่าร้าย กวาดล้างภัยออนไลน์ กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ รวมไปถึงการจับกุมแก๊งมิจฉาชีพหลอกนักเรียน ม.6 โอนเงินดาวน์ผ่อนซื้อไอโฟน 13 ทางออนไลน์ โดยทุกครั้งที่มีการปฏิบัติการ พล.ต.ท.วรวัฒน์ จะลงพื้นที่คุมงานเองเสมอ ขณะเดียวกันยังแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์กลโกงของคนร้ายต่างๆ ให้รับทราบ เปรียบเสมือนการให้วัคซีนทางไซเบอร์กับพี่น้องประชาชนให้รู้เท่าทันมีสติเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ จึงเป็นที่มาของ ฉายา "เพชฌฆาต โจรไซเบอร์"
8.พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (ผบช.ภ.1) ฉายา "ที่สุด ของแจ้"
พล.ต.ท.จิรสันต์ มีชื่อเล่นว่า "แจ้" และด้วยบุคลิกที่เป็นนายตำรวจใฝ่รู้ มาดสุขุม นุ่มลึก มีรอยยิ้มและสมองเป็นอาวุธ บวกกับสไตล์การทำงานคลุกคลีตีฝุ่นเป็นกันเองกับผู้ใต้บังคับบัญชา ยามว่างลงพื้นที่เสริมสร้างสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับประชาชน พล.ต.ท.จิรสันต์ เป็นรอง ผบช.น.ยาวนานถึง 5 ปี ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งก็คาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร เพราะจะเกษียณอายุราชการในปี 2567 แต่สุดท้ายก็ปรากฏชื่อได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายก่อนเกษียณ แต่ที่สำคัญไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 หรือที่ใครเรียกว่าผู้บัญชาการตัวเลข จึงเป็นที่มาของฉายา "ที่สุด ของแจ้"
9.พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ฉายา "เชอร์ล็อคนพ"
เรียกได้ว่าเป็นนักสืบยุค 5G มีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย ด้วยประสบการณ์ที่สะสมบนเส้นทางนักสืบได้ถ่ายทอดวิชาแก่นักสืบรุ่นหลัง และบ่อยครั้งมักจะถูกดึงตัวมาอยู่ในชุดทีมคลี่คลายคดีสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลายยุคหลายสมัย ล่าสุดกับผลงานในคดีการเสียชีวิตของ "น้องชมพู่" จน ผบ.ตร. ชื่นชมยกเป็นโมเดลให้นักสืบรุ่นใหม่ และด้วยฝีไม้ลายมือเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ชื่อของรองนพศิลป์ ติดทำเนียบเป็นนักสืบชั้นครูของวงการตำรวจไทย เทียบคล้ายกับนักสืบดังในภาพยนตร์ "เชอร์ล็อคโฮล์ม" จึงเป็นที่มาของ ฉายา "เชอร์ล็อคนพ"
10. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ฉายา "มือปราบกังฉิน"
ถือว่าเป็นมือปราบที่ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ และผ่านคดีดังมากมายที่เกี่ยวข้องกับการจับข้าราชการระดับสูงที่ทุจริตเรียกรับสินบน ด้วยภาพของการปราบข้าราชการทุจริตคอรัปชั่น เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ฮั้วประมูลงานต่างๆ ล่าสุดเป็นผู้นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมลูกเขยของ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" รมช.มหาดไทย ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จึงเป็นที่มาของ ฉายา "มือปราบกังฉิน"
11. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา "โคนัน นครบาล"
หนึ่งในลูกหม้อนครบาล ด้วยฝีมือระดับตำนานนักสืบ ผ่านการฝึกฝนตำราสืบสวนมาอย่างมากมาย มีผลงานโดดเด่นด้านการสืบสวนเทียบชั้นครู ตามเช็คบิลปิดคดีสำคัญได้หลายคดี และคดีล่าสุด ที่เป็นประเด็นดังมากในบนโลกออนไลน์ คือคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง "ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด นศ.อุเทนถวาย" ย่านคลองเตย เป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรม ขยายผลจนสามารถออกหมายจับและจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้แล้ว 25 ราย และยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 1 ราย นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมคดีตามหมายจับได้ถึง 1,443 คดี จึงเป็นที่มาของ ฉายา "โคนัน นครบาล"