นางรัดเกล้า อินทวงค์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบข้อเสนอแนะกรณีการจัดให้เด็กสมรสก่อนวัยอันควร ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอ โดยมีรายละเอียดการดำเนินการ ดังนี้
1. แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ โดยปรับแก้เกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรสเป็น 18 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับคำมั่นของประเทศไทยต่อกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และข้อสังเกตของคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิเด็ก และคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี
2.ปรับปรุงหลักเกณฑ์และข้อปฏิบัติตามหลักการศาสนาอิสลามที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการบังคับสมรสในวัยเด็ก ให้ครอบคลุมทุกกรณี เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล เช่น กรณีเป็นความยินยอมโดยสมัครใจของเด็ก กรณีการบังคับด้วยเหตุแห่งเศรษฐกิจ กรณีการบังคับที่เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเด็กสมัครใจล่วงประเวณี หรือกรณีการบังคับสมรสอันเป็นผลมาจากการถูกละเมิดทางเพศ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
3. เมื่อปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรส ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ให้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ปรับแก้อายุขั้นต่ำในการสมรส ตามระเบียบคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยว่าด้วยการสมรส (นิกาห์) บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี พ.ศ. 2561 ให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ต่อไป
"กสม. ได้พิจารณาเห็นแล้วว่า ปัญหาเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ต่อคณะทำงาน Universal Periodic Review (UPR) เมื่อปี 2559 ในการปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรส ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งเป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงมีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณามอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย" นางรัดเกล้า กล่าว