นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เยี่ยมชมจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กองบิน 41 ติดตามการปฎิบัติการฝนหลวง แก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยนายกฯ ได้สอบถามนายปกรณ์ อาภาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ถึงความร่วมมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เรื่องการป้องกันการเผาที่มีผลต่อหมอกควัน และค่าฝุ่นละออง
หลังผู้อำนวยการ GISTDA ได้ฉายภาพดาวเทียมที่ตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติ จากค่าความร้อนบนผิวโลก (Hot Spot) ในรอบ 20 ปีที่ผ่าน ซึ่งพบจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะโทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในวันนี้ เนื่องจากไม่สามารถรอหารือในช่วงที่จะมีการพบกันในวันที่ 7 ก.พ. ได้ทัน เพราะอาจไปนานไป
"ขอบคุณที่ทุกคนทุ่มเทและเอาใจใส่ นำปัญหานี้มาเป็นปัญหาหลัก ในการที่เราจะต้องทำงานกันอย่างบูรณาการ ซึ่งผมได้มีการพูดคุยกันในส่วนของฝั่งประเทศของเรา โดยทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ในเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่อยากให้เอามาเป็นเหตุผลในปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเราเป็นพี่ใหญ่ เรามีเทคโนโลยีและทรัพยากรเยอะกว่า เราต้องพูดคุยกับเขาได้ ซึ่งการลงรายละเอียดเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผมและกระทรวงการต่างประเทศ จะไปพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันแก้ปัญหานี้ เพราะเราคือทีมไทยแลนด์ ที่จะช่วยกันแก้ปัญหา" นายกฯ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แนะว่าสถานการณ์ไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ภาคอีสานค่อนข้างเกิดขึ้นมากว่า จึงขอให้พิจารณาโยกเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการจากจังหวัดอื่น มาไว้ที่เชียงใหม่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นคำสั่ง แค่ฝากไว้ให้พิจารณา เพราะเจ้าหน้าที่มีข้อมูลมากกว่าตน
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะต้องพยายามกันต่อไป และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ในการลดปัญหาการเกิดไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง
"วันนี้ไม่ใช่วิ่ง 100 เมตร แต่เป็นการวิ่งมาราธอน ก็ขอขอบคุณที่ตั้งเป้าหมายให้ Hot Spot ลดลง 50% ซึ่งผ่านมา 10 วันแล้วก็ถือว่าดีขึ้นเยอะ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
โดยวันนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ร่วมทำแนวกันไฟกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า หรือเสือไฟ พร้อมชมการสาธิตการดับไฟป่าทางอากาศด้วย