สภาองค์กรผู้บริโภค เปิดตัว "สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502" เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว
สภาองค์กรผู้บริโภค ถูกจัดตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดให้สภาแห่งนี้ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ เพื่อคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ์ของผู้บริโภคในทุกด้าน เช่น ด้านการเงินการธนาคาร การขนส่ง ยานพาหนะ อสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัย อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ บริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
แต่จากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การบริโภคของประชาชน จึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามา ทำให้สามารถซื้อสินค้าง่ายมากขึ้น แต่สิ่งที่มาพร้อมกับความทันสมัย คือ เกิดผลเสียได้ง่ายมากขึ้น เช่น การถูกหลอกลวง สินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้รับสินค้า ซ้ำร้ายกว่านั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังสามารถหลอกเอาเงินจากบัญชีไปได้อย่างง่ายดาย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรับผิดชอบงานด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มช่องทาง "สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502" เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว
"ที่ผ่านมา สภาผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศ จากหน่วยงานประจำจังหวัด 15 จังหวัด และศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ ในปีงบประมาณ 2566 จำนวน 16,142 เรื่อง ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาได้ 12,837 เรื่อง มูลค่ากว่า 71 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเยียวยาให้มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ จึงควรเพิ่ม "สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502" ตามแนวนโยบายของท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากที่ผ่านมามีเพียงเบอร์โทรศัพท์สำนักงาน เว็บไซต์ และช่องทางออนไลน์อื่น ๆ แต่จากนี้จะทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง เพราะมีสภาผู้บริโภคช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว