สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. พบหลายจังหวัดมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินมาตรฐาน โดยพบค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) จำนวน 17 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีค่า PM2.5 สูงติด 3 อันดับแรก คือ 1. สมุทรสาคร 131.7 ไมโครกรัม 2. สมุทรสงคราม 124.8 ไมโครกรัม และ 3. นครปฐม 105 ไมโครกรัม และยังพบอีก 28 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม)
ในขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบค่าฝุ่น PM 2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ถึง 33 เขตพื้นที่ โดย 3 อันดับแรก คือ 1. หนองแขม 119 ไมโครกรัม 2. บางกอกใหญ่ 100.2 ไมโครกรัม และ 3. ทวีวัฒนา 99 ส่วน 17 เขตที่เหลือ มีค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม)
ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 67 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 221 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 70 จุด ตามด้วย พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 49 จุด พื้นที่เขตสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 37 จุด ชุมชนและอื่นๆ 32 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 27 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. ชลบุรี 22 จุด 2. ลพบุรี 15 จุด และ 3. ขอนแก่น 13 จุด
นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 1,174 จุด ตามด้วยเมียนมา 328 จุด ลาว 100 จุด และเวียดนาม 72 จุด
ดังนั้น แนะนำให้ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมา โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ