นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมกรอบ WEF ภายใต้กรอบการหารือ Country Strategy Dialogue on Thailand ณ ศูนย์ประชุม Congress Centre เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยได้นำเสนอยุทธศาสตร์ของประเทศไทย การกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่าไทยได้เปิดประเทศแล้ว โดยนำเสนอ "โครงการแลนด์บริดจ์" และการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญลำดับต้นๆ โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคเอกชนหลากหลายบริษัทที่เข้าร่วมการหารือครั้งนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมกิจกรรม Thailand Landbridge : Connecting ASEAN with the World ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนและภาคเอกชนชั้นนำ โดยได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในวงกว้างถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งหลายบริษัทแสดงความสนใจ และต้องการนัดหมายพูดคุยในรายละเอียด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มีโอกาสหารือกับ Sultan Ahmed bin Sulayem ประธานกลุ่มบริษัท และผู้บริหารของบริษัทดูไบ พอร์ต เวิลด์ (DP World) ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า การดำเนินงานท่าเรือ ซึ่งเป็น Operator ของท่าเรือแหลมฉบัง ได้แสดงเจตจำนงชัดเจนจะมาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ พร้อมจะเดินทางมาหารือที่ประเทศไทย และจะเดินทางไปสำรวจสถานที่จริงด้วย ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะนำคณะเดินทางไปเอง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับอีกหลายคณะ เช่น
1. พูดคุยกับ Mr.Avie Glazer ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ต้องการนำทีมฟุตบอลเข้ามาเตะที่ไทยอีกครั้ง เนื่องจากมีแฟนบอลจำนวนมาก โดยได้สนทนาอย่างเป็นกันเอง และได้ถามแทนแฟนคลับของแมนยูฯ ถึงการหานักเตะศูนย์หน้าฝีมือดีมาร่วมสโมสร
2. หารือกับนาย Alexander De Croo นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเบลเยียม เรื่องเที่ยวบินตรงระหว่างสนามบินบรัสเซลส์ของเบลเยียมและประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะนำไปหารือกับ บมจ.การบินไทย (THAI) ต่อไป นอกจากนี้ ยังหารือถึงการยกระดับหนังสือเดินทางไทย เพื่อให้ขอวีซ่าและสามารถเดินทางเข้ายุโรปได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเจรจาเรื่อง FTA ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ที่คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งอียูเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย
3. หารือกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ถึงวาระและประเด็นที่จะได้หารือกันในระหว่างการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ โดยเรื่องสำคัญที่สุด คือ การแก้ไขปัญหา PM2.5 ซึ่งได้มีการพูดคุยและตั้งคณะทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงปัญหา และยินดีร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรี ยังได้หารือกับผู้บริหาร HSBC ซึ่งพร้อมจะทำงานร่วมกับไทยมากขึ้น โดยจะทำโรดโชว์ร่วมกัน รวมถึงหารือกับผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ซึ่งยืนยันว่าไทยให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันต่อไป
อีกทั้งได้หารือกับนาย Bernard Mensah ประธาน Bank of America และ CEO ของ Merrill Lynch International ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระดับโลก และมีสำนักงานขนาดใหญ่ที่ไทยด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกันมีแนวทางความร่วมมือ ทั้งการส่งเสริมให้บริษัทไทยไปลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงการโรดโชว์ร่วมกัน เพื่อนำประเทศไทยเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีโลกมากขึ้น