นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ของโรงกลั่นไทยออยล์มีการหยุดซ่อมบำรุง เป็นระยะเวลา 13 วัน ระหว่างวันที่ 16-28 ม.ค.67 ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันกลุ่มดีเซล และน้ำมันอากาศยาน โดยได้มีการประชุมหารือและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.67 ร่วมกับบมจ.ไทยออยล์ (TOP) โรงกลั่นน้ำมันทุกแห่งและผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เพื่อเตรียมมาตรการป้องกันและแก้ไขการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเร่งรัดการนำเข้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 ได้รับรายงานจากบริษัทไทยออยล์ว่าการซ่อมบำรุงหน่วยผลิตดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วเสร็จและกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติแล้ว
"จากการติดตามสถานการณ์ดังกล่าว อย่างใกล้ชิด พบว่า TOP และผู้ค้าน้ำมันสามารถจัดหาน้ำมันอากาศยาน (JET A1) ได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศโดยไม่มีผลกระทบ สำหรับน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว ที่ค่อนข้างตึงตัวในช่วงแรก ได้มีการสั่งการให้ผู้ค้าน้ำมันห้ามส่งออกน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว ยกเว้นกรณีจำเป็นตามสัญญา และให้นำน้ำมันสำรองตามกฎหมายกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว ออกมาจำหน่ายได้ในปริมาณไม่เกินกว่า 20% ของปริมาณสำรองตามกฎหมายที่มีหน้าที่ต้องเก็บสำรอง รวมถึงเร่งการนำเข้าเพื่อให้มีปริมาณน้ำมันเพียงพอต่อความต้องการใช้ของประเทศนั้น โดยขณะนี้หน่วยกลั่นที่ 3 ของโรงกลั่นไทยออยล์ ได้ทำความสะอาดถาดกลั่นที่อุดตันเสร็จตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.67 และสามารถกลับมาดำเนินการผลิตและจ่ายน้ำมันได้ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.67 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการขาดแคลนน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน" นายสราวุธ กล่าว