พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีนโยบายส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นหลักสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศได้ทำข้อตกลงร่วมกันในเรื่องฟรีวีซ่าไทย-จีน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยและคนจีนสามารถเดินทางเข้าประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถพำนักในประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นเวลาไม่เกิน 30 วัน
โดยช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้เป็นเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของคนจีน ทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นจากเดือน ม.ค.เกือบเท่าตัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ตร.ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาคต่างๆ และตำรวจนครบาล เตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อให้เกิดความมั่นใจและประทับใจจนอยากกลับมาเที่ยวซ้ำอีก ซึ่งจะสามารถทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้จากสถิตินักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 มีจำนวน 3,729,573 ราย เฉพาะเดือน ม.ค.67 มีจำนวน 545,158 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยกเว้นวีซ่า ซึ่งเพิ่มขึ้น 440% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.66 หลังมีนโยบายยกเว้นการทำวีซ่าเมื่อวันที่ 25 ก.ย.66 เป็นต้นมา มีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือน ธ.ค.66 เพิ่มขึ้น 34% และ ม.ค.67 เพิ่มขึ้น 23% จากเดือนก่อน เห็นได้ชัดว่านักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า มาตรการที่จะปรับเพิ่มคือ การปรับวงรอบการตรวจ และร่วมมือกับอาสาสมัครมาช่วยตำรวจ รวมถึงใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย เช่น กล้องติดตัวสายตรวจ และใช้โดรนในการตรวจทางอากาศ พร้อมประสานกับตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลในการเฝ้าระวังจีนเทาที่จะแฝงตัวเข้ามา โดยผู้ที่มีหมายจับจะมีการขึ้นบัญชีดำไว้และไม่อนุญาตให้เข้ามาในไทย พร้อมร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกให้เฝ้าระวังกวดขันรถแท็กซี่สาธารณะไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันในการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในส่วนของมาตรการทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจท้องที่ก็มีมาตรการระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นก็ปรับวงรอบการตรวจมากขึ้น หรือเพิ่มจุดตรวจ ส่วนปัญหาระบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric) ที่มีปัญหาระบบล่มนั้น ยอมรับว่าเรื่องเทคโนโลยีก็มีขัดข้องบ้าง แต่ไม่ต้องกังวล เพราะหากออนไลน์มีปัญหาก็มีระบบสำรองที่เรียกว่าแบล็คลิสออฟไลน์ในการตรวจแบบแมนนวล แต่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น