ตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุมน.ส.สุพัตรา อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกง ที่บริเวณบ้าน ม.10 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พฤติการณ์ทางคดี กลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทคริปโท โดยในช่วงแรกจะสามารถถอนเงินจากการลงทุนได้ แต่ต่อมาจะมีการให้ทำสัญญาในการลงทุนเทรด โดยให้เซ็นสัญญาการลงทุนที่ใช้เหรียญUSDT ขั้นต่ำ 2,500 เหรียญ คิดเป็นเงินไทย 86,250 บาท โดยในสัญญาการลงทุน มีเงื่อนไขว่า 1. ต้องเทรดเหรียญ 7 วัน วันละ 2 รอบ รวม 14 ครั้ง 2. ในการเทรดแต่ละครั้ง จะเก็บค่าคอมมิชชั่น 25% ของกำไร 3.กำไรที่ได้ในแต่ละครั้ง จะนำไปเป็นทุนในครั้งถัดไปของการเทรด และไม่สามารถถอนทั้งทุนหรือกำไรออกมาได้ จนกว่าจะครบสัญญา 7 วัน ซึ่งหลังจากจ่ายค่าต่าง ๆ ไปแล้วนั้น ปรากฏว่ายังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท
ผู้ต้องหาตามบัญชีม้า ให้การว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยคนรู้จักอ้างว่าธนาคารจะหาลูกค้าในการเปิดบัญชี โดยได้นำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีออนไลน์ และให้ยืนยันตัวตนผ่านทาง 7-11 แล้วจะดำเนินการปิดบัญชีให้ในภายหลัง โดยต่อมาบัญชีของผู้ต้องหาถูกใช้ในการกระทำผิด
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพ ซึ่งแฝงตัวมา ส่วนเจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ