นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้ามาหารือเพื่อกำชับการให้ความสำคัญกับการอารักขาขบวนเสด็จ เพื่อต้องการย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญ และกำชับสำนักข่าวกรองแห่งชาติให้ดูแลไม่ให้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มที่เห็นต่างเกิดขึ้นอีก เพราะอยากให้ประเทศอยู่กันด้วยความสามัคคี หากมีความเห็นต่างก็ควรใช้เวทีพูดคุยที่เหมาะสม เช่น สภาฯ หรือเวทีวิชาการ
สำหรับออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบันนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กองทัพทำกันเป็นปกติ ทุกฝ่าย รวมถึงกองทัพ ต่างรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนกรณีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดขัดขวางขบวนเสด็จนั้นก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้ง และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอวิงวอนให้ยุติใช้ความรุนแรง เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วย และทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือตำรวจ ต่างต้องการเห็นความสมัครสมานสามัคคี แม้เรื่องความเห็นต่างเป็นสิ่งที่มีอยู่ในสังคม แต่เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยและใช้เวทีที่ปลอดภัย ไม่คุกคามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ลดทอนเรื่องการใช้ Hate Speech
"อยากจะอ้อนวอน และวิงวอนให้ทุกฝ่ายเห็นถึงจุดนี้ เพราะเห็นว่าตอนนี้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดี ความวุ่นวายก็ไม่มีมานานแล้ว ก็ไม่อยากให้มีประเด็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น เป็นเรื่องของฝ่ายความรักษาความปลอดภัย และฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแล" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนความกังวลว่าจะมีเหตุลุกลามบานปลายหรือไม่ เพราะล่าสุดมีเหตุปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงขู่ทำร้ายกันด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย ลดทอนเรื่องการใช้ Hate Speech โดยเสนอให้ใช้เวทีสาธารณะ ทั้งสภา และเวทีวิชาการมาหารือกัน เพื่อให้มีความปลอดภัยกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ควรมีใครให้ท้าย ไม่ควรมีขบวนการอยู่ข้างหลัง
"ผมคิดว่า ทุกๆ ฝ่าย อยากเห็นประเทศชาติมีความปรองดองสมัครสมานสามัคคีกัน เป็นบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ คิดว่าทุกฝ่ายให้ความสำคัญเรื่องนี้ ผมได้พูดคุยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรื่องนี้ ว่าต้องระมัดระวัง ไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ" นายเศรษฐา กล่าว
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สยาม จะเห็นได้ชัดว่าการแสดงพฤติกรรมของกลุ่มเยาวชนมีคนให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา ซึ่งขณะนี้ตำรวจต้องทำทุกอย่างให้รอบคอบรอบด้าน ไม่อยากใหัมีข้อผิดพลาด โดยเฉพาะในชั้นอัยการเหมือนที่ผ่านมา
"ไม่จำเป็นต้องออกมาบอกว่าตำรวจจะทำอะไร เข้าใจสื่อฯ ว่าอยากจะถามตำรวจ ทำอะไรบ้าง เชื่อว่าคนที่ออกมาแสดงพฤติกรรมดังกล่าว ไม่ได้ออกมาเอง มีขบวนการที่อยู่ข้างหลัง ขอรอให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน แล้ววันที่ตำรวจทำคดีให้ถึงที่สุด สื่อฯจะเห็นว่าตำรวจทำงานกันอย่างละเอียด เหมือนกับที่พูดกับทีมงานว่าอย่าไปเร่ง เพราะหากไปเร่ง จะมีข้อผิดพลาด เหมือนที่ผ่านมา อยากทำคดีนี้ให้ละเอียด ขอเวลาอีก 2 วัน จะเห็นว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหา และหมายจับแน่นอน" ผบ.ตร. ระบุ